เมื่อวันที่ 22 กย. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง พร้อมด้วย พล.ต.ท.เดชา ช่วยบุญชุม รอง ผบ.ตร.และนายตำรวจระดับสูง เดินทางไปที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รักษาการ ผบก.ตร.ภจังหวัด.ประจวบฯ นายเลิศยศ แย้มพราย ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองประจวบฯ พ.อ.ชรวุฒิ ชูติวิทย์ รอง ผอ.กอรมน.จ.ประจวบฯ พ.อ.พิเชษฐ์ หัสดีผง รอง ผบ.เฉพาะกิจจงอางศึก เข้าร่วมประชุมเพื่อเร่งรัดการสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ติดตามจับกุมผู้กระทำผิด เพื่อแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น

201609221453362-20041020160007

โดยก่อนหน้านี้ ระหว่างวันที่ 10-12 ส.ค.ที่ผ่านมา มีคนร้ายกระทำผิดหลายพื้นที่ ในเวลาไล่เลี่ยกัน ลอบวางวัตถุระเบิดเพลิงและวัตถุแสวงเครื่อง ในร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต พังงา กระบี่ นครศรีธรรมราช และจ.ตรัง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก

201609221453291-20041020160007

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ตร. กล่าวว่า แผนยุทธการประจวบร่มเย็น ในครั้งนี้เป็นมาตรการเชิงรุก เพื่อป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล เพื่อสร้างความเชื่อมั่น มือปืนรับจ้าง การค้ามนุษย์ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้ ตนสั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจในจังหวัดพื้นที่เกิดเหตุ ติดตามพฤติกรรมของคนร้ายหากทั้งหมดเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่แบ่งหน้าที่ในการก่อเหตุ ก็จะมีการรวมสำนวนคดีตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ส่วนความคืบหน้าในการจับกุมคนร้ายหรือเสนอขอหมายจับเพิ่มเติมอยู่ระหว่างดำเนินการ พร้อมประสานงานกับสำนักงาน ปปง.เพื่อแจ้งข้อหาอั้งยี่หรือซ่องโจร และติดตามตรวจสอบหากลุ่มนายทุน หรือผู้จ้างวานที่อยู่เบื้องหลังโดยจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์

ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องยังไม่พบว่ามีหลักฐานในการเดินทางออกนอกประเทศ สำหรับการป้องกันเหตุในพื้นที่ภาคใต้ สั่งการให้มีการติดตามกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่จะเดินทางมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยขอให้ตรวจค้นรถทุกประเภทโดยเฉพาะรถโดยสารประจำทาง รถตู้ รถแท็กซี่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถชี้ชัดว่ากลุ่มคนร้ายลงมือวางระเบิดด้วยสาเหตุใด เนื่องจากยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายที่ออกหมายจับได้

ต่อมารอง ผบ.ตร. แถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม มีการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมอาวุธปืนตามแผนยุทธการตำรวจร่มเย็น มีผู้ต้องหา 71 ราย อาวุธปืน 71 กระบอกจากความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและวัตถุระเบิด ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจับกุมผู้ต้องหา 131 ราย ยาบ้า 5031 เม็ด ยาไอซ์ 21.76 กรัม กัญชา 67.19 กรัม จับผู้ต้องหาคดีค้างเก่า 11 ราย แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 92 ราย ความผิดเกี่ยวกับการพนัน 28 ราย ความผิดเกี่ยวกับการประมงผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์ 41 คดี ผลการตรวจสอบเรือประมง 50 ลำ

จากนั้นในเวลา 18.30 น. วันที่ 23 ก.ย.นี้ ตำรวจภูธรจ.ประจวบคีรีขันธ์ จะระดมกำลัง 30 นายปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรม ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ “ตามแผนปิดเมืองสยบโจรโค่นอิทธิพล” ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน