โชเฟอร์โชว์พระ เล่านาทีปั้นจั่นล้มทับ พังยับ เคราะห์ดีผู้โดยสารนั่งหลัง หลับเลยรอด!

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. ร.ต.ท.ภูวดิท ตันวราโชติ รองสว.(สอบสวน) สน.สายไหม รับแจ้งเหตุ ปั้นจั่นล้มพาดเสาไฟฟ้า ที่บริเวณ กลางซอย พหลโยธิน 54/1 แขวงคลองถนน เขตสายไหมหลังรับแจ้งจึงเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จากการตรวจสอบพบ ปั้นจั่นความสูงกว่า 10 เมตร ล้มพาดอยู่กับเสาไฟฟ้า จนทำให้เสาไฟฟ้าล้มประมาณ 4 ต้น และทับบ้านเรือนประชาชน รวม 4 หลังคาเรือน ส่วนได้รับความเสียหายบริเวณ ชั้น 2 ของตัวบ้าน หลังคาแตกเสียหายเล็กน้อย ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างเก็บกู้ซากปั้นจั่น อย่างระมัดระวังเนื่องจากอาจทำให้เสาไฟฟ้าล้มลงมาเพิ่มเติมอีก และอาจมีเศษซากต่างๆตกลงมาอีกได้

ทั้งนี้ยังพบว่า มีรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีเขียวเหลือง ทะเบียน มช 4350 กทม. โดยมี นาวาอากาศเอก วิสุทธิ์ ประเสริฐสุดเป็นผู้ขับขี่ เบื้องต้นไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ส่วนรถได้รับความเสียหายบริเวณด้านหลังคนขับสภาพยับเยิน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชิญตัวผู้ขับขี่ ไปที่ สน.สายไหม เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เนื่องจากเป็นผู้ได้รับความเสียหาย

ด้านนายสมาน ฤกษ์บวร ผู้คุมงานก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าว บ.ริเวอร์ เอ็มจิดนียริ่ง กล่าวว่า ตนเป็นผู้คุมงานก่อสร้าง การก่อสร้างดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการสร้างเขื่อนบริเวณ คลองลาดพร้าว ระหว่างการก่อสร้างตอกเสาเข็มอยู่นั้น คนงานกำลังยกเสาเข็มขึ้นเกิดปลายเสาเข็มไปโดนฐานปั้นจั่นจนทำให้ปั้นจั่นเสียศูนย์ และล้มลงจนเกิดเหตุกังกล่าวขึ้น

ด้าน นาวาอากาศเอก วิสุทธิ์ ประเสริฐสุด คนขับแท็กซี่ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังไปส่งผู้โดยสารที่ เคหะวัดเกาะ แขวงออเงิน เขตสายไหม โดยใช้เส้น ทางซอย พหลโยธิน54/1 เป็นทางผ่านเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุพบว่า มีอะไรบางอย่างตกใส่รถบริเวณด้านขวาด้านหลังของคนขับ

โดยขณะนั้นมีลูกค้านั่งอยู่ด้านหลัง แต่มีอาการป่วย มีไข้สูงจึงนอนไปกับเบาะซ้ายด้านหลังของรถ จนทำให้รอดหวุดหวิด ช่วงนั้นตนรู้สึกตกใจมากกระทั่งหาทางลงจากรถและมาพบว่าเป็นเสาไฟฟ้าที่ทับรถของตน ต่อมาเจ้าหน้าที่ช่วยกันนำเสาไฟฟ้าออกก่อนจะที่ตนจะขับรถเข้ามาที่ สน.สายไหม ด้วยตัวเองเพื่อลงบันทึกประจำวันและรอตกลงค่าเสียหาย

จากการสอบถามนาวาอากาศเอก วิสุทธิ์ ประเสริฐสุด คนขับแท็กซี่ เพิ่มเติมทราบว่า หลังเหิดเหตุตนเชื่อว่าคงเป็นเพราะ ตนมีพระดีที่ติดตัวอยู่ตลอด เป็นสมเด็จวัดระฆัง ปี 35 และ ไพรีพินาศ ปี36 ที่ทำให้อุบัติเหตุครั้งนี้ผ่านพ้นได้ด้วยดี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหาใคร เนื่องจากต้องเชิญผู้ควบคุมปั้นจั่นและผู้ควบคุมงานก่อสร้างมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง และรอทางการไฟฟ้านครหลวงเข้าตรวจสอบความเสียหายเพื่อประเมินราคาและแจ้งความร้องทุกข์

ส่วนบ้านเรือนและรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายให้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อนจะมีการตกลงค่าเสียหายกัน ซึ่งหากพบว่าเป็นการกระทำโดยความประมาทก็เข้าข่ายความผิด “กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินทางราชการและทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งทำการเคลียร์เสาไฟฟ้า และนำปั้นจั่นออกจากจุดเกิดเหตุ เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลต่อการจราจรซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า4 ชม. ในการดำเนินการ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน