พายุปาบึก แผลงฤทธิ์แล้ว! ทะเลคลั่งซัดน้ำทะเลทะลักเข้าท่วม แหลมตะลุมพุก ฝนถล่มหนักต่อเนื่อง ประชาชนอพยพออกนอกพื้นที่ เผยไม่กลัวบ้านเรือนเสียหาย แต่กลัวการสูญเสียคนในหมู่บ้าน ด้าน ยายวัย 70 ปี ขอปักหลักอยู่บ้าน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 ม.ค. ที่บริเวณหมู่บ้านที่อยู่ปลายแหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ข่าวสดออนไลน์ ได้ลงพื้นที่ไปยังภายในหมู่บ้านดังกล่าว พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ได้ขนของขึ้นที่สูง และนำสิ่งของที่จำเป็นและอพยพออกจากพื้นที่แล้ว แต่ยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังคงปักหลักอยู่บริเวณบ้านของตนเอง เพื่อคอยดูแลที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินของชาวบ้าน

จากการสอบถามชาวบ้านในหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้มาเกือบทั้งชีวิต เคยประสบเหตุพายุแบบนี้มาแล้ว ตั้งแต่ พายุไต้ฝุ่นเกย์ เมื่อปี 2532 เราก็ได้มีการอพยพออกนอกพื้นที่ พายเรือเข้าไปอยู่ในป่า เพราะหมู่บ้านของตนเป็นหมู่บ้านที่อยู่ปลายสุดของแหลมตะลุมพุก เมื่อมีพายุ ฝนตกหนัก น้ำทะเลจะหนุนสูงขึ้น จึงทำให้น้ำทะเลไหลทะลักเข้ามาภายในหมู่บ้าน โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน ปริมาณน้ำก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกอย่างหนัก จึงทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านบางหลัง หลังคาปลิวไปกับลม ต้นไม้ทับบ้าน ทำให้เสียหายอย่างหนัก

ชาวบ้าน กล่าวต่อว่า โดยตอนนี้ประชาชนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านก็ได้ขนของและทรัพย์สินที่จำเป็น อพยพออกจากพื้นที่ ไปอยู่ในศูนย์อพยพ ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมไว้ให้แล้ว จะมีเพียงผู้ชายบางครอบครัวที่จะอยู่ภายในหมู่บ้าน เพื่อสังเกตการณ์ดูแลหมู่บ้านและทรัพย์สินของชาวบ้านที่ฝากไว้

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่ เพิ่มเพื่อน

“เราไม่รู้ว่าพายุปาบึกครั้งนี้จะมีความรุนแรงและสร้างความเสียหายได้เท่ากับพายุเกย์หรือไม่ แต่ชาวบ้านก็ได้เตรียมการรับมือและอพยพออกจากพื้นที่ไปแล้ว เราไม่กลัวว่าบ้านเรือนจะเสียหาย แต่กลัวการสูญเสียของคนในหมู่บ้านมากกว่า” ชาวบ้าน กล่าว

ด้าน คุณยาย วัย 70 ปี กล่าวว่า ตนไม่อยากอพยพออกไปจากบ้าน เพราะไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ไม่สุขสบายเท่ากับอยู่บ้าน แม้จะมีญาติพี่น้อง หรือเจ้าหน้าที่มาเกลี้ยกล่อมให้อพยพออกไปอยู่หลายครั้ง แต่ตนก็ยังยืนยันว่าอยากจะอยู่ที่บ้านของตัวเอง เพราะตนมีความสุข โดยได้เตรียมตัวรับมือกับพายุแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ ก็เคยเจอพายุมาก่อน จึงคิดว่าจะสามารถรับมือได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านได้นำเรือเล็กขึ้นมาเทียบจอดไว้บริเวณริมถนน เพราะเกรงว่าน้ำจะพัดพาเรือทำให้เรือหายไป และบริเวณริมชายหาดน้ำทะเลเริ่มหนุนสูงขึ้น ประกอบกับลมแรง และฝนตกอย่างหนัก ทำให้น้ำเริ่มท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ บริเวณถนนหลักที่ใช้สัญจร น้ำก็เริ่มทะลักเข้ามาแล้ว จึงได้มีรถจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ร่วมกับโรงพยาบาลปากพนัง เข้าไปในบริเวณหมู่บ้านดังกล่าว เพื่อรับประชาชนที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ ออกจากหมู่บ้านโดยเร็ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน