เมื่อวันที่ 2 ก.พ. พ.ต.อ.นิพนธ์ คล้ายสิงห์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแสนภูดาษ พร้อมด้วยกำลังสายตรวจและชุดสืบสวน นำตัวนายอดิศักดิ์ หรืออาม สวัสดี อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุข่มขืน ฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.สุภาวดี จันทร์เลิศ อายุ 45 ปี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายในบ้านแห่งหนึ่งในอ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พ.ย.2559 เวลา 02.30 น. ขณะที่น.ส.สุภาวดีนอนหลับอยู่ภายในห้องนอน โดยที่มีนางจิดาภา อายุ 65 ปี มารดาอยู่อยู่อีกห้อง มีนายอามซึ่งมีอายุรุ่นลูก อยู่บ้านติดกัน และเห็นกันมาตั้งแต่นายอามเป็นเด็กปีนประตูหน้าบ้านแล้วเดินเข้าข้างบ้าน ก่อนจะงัดประตูหลังบ้านเพื่อจะเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ซึ่งเป็นจังหวะที่น.ส.สุภาวดีนอนอยู่แต่ไม่ได้ล็อกห้อง ทำให้นายอามนั้นบุกเข้าไปลงมือปลุกปล้ำข่มขืน
ซึ่งน.ส.สุภาวดี พยายามขัดขืนทำให้นายอามใช้มืออุดปากและใช้หมอนกดจนเสียชีวิต ก่อนจะขโมยมือถือ 1 เครื่องและเงินสด 1,500 บาท ไป ซึ่งนายอามก่อนลงมือได้ยืนดูลาดเลาอยู่ริมรั้ว ซึ่งติดกับห้องนอนมา 2 วันก่อนลงมือก่อเหตุ โดยเงินที่ได้นำไปซื้อยามาเสพ ก่อนตำรวจจะรวบรวมผลทางนิติวิทยาศาสตร์ และหลักฐานเกี่ยวกับมือถือที่นายอามนำไปขายให้เพื่อน แล้วนำไปสู่การจับกุมตัวภายในบ้านในอ.บ้านโพธิ์ ซึ่งอยู่ติดกับบ้านของผู้ตาย
นางจิดาภา กล่าวทั้งน้ำตาว่า เห็นนายอามมาตั้งแต่เล็กและเอ็นดูมาตลอด ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งสร้างความแค้นจนต้องจุดธูปบอกวิญญาณลูกสาวให้ไปขี่คอคนร้าย แล้วดลใจให้ตำรวจติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้เร็ววัน สุดท้ายพอทำบุญครบ 100 วัน ก็ทราบข่าวจากทางตำรวจว่าจับกุมคนร้ายได้แล้วทำให้ดีใจแล้วขอบคุณตำรวจ แต่ไม่คิดว่าคนร้ายจะเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียง
ทั้งนี้ ยังพูดทิ้งท้ายว่าตอนนี้ก็เห็นวิญญาณลูกสาวนั่งขี่คอนายอามตลอดเวลา ทำให้คิดว่านายอาม คงต้องชดใช้กรรมที่ได้ก่อไว้เสียที ซึ่งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาเสพยา ก่อนจะเพิ่มข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ชิงทรัพย์ บุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน
