เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ก.พ. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมทนาย เดินทางมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อขึ้นสืบพยานฝ่ายจำเลยนัดที่ 11 ในคดีโครงการรับจำนำข้าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย

โดยมีบรรดาอดีตรัฐมนตรี แกนนำพรรคและอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมว.ประจำสำนักนายกฯ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เป็นต้น ร่วมให้กำลังใจ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการขอทุเลาคำสั่งทางปกครองในการยึดทรัพย์คดีจำนำข้าว ต่อศาลปกครองว่า ขณะนี้ผู้ถูกฟ้องขอเลื่อนคำโต้แย้งให้การต่อศาล คงต้องรอหลังจากที่ผู้ถูกฟ้องแก้คำโต้แย้งแล้วเสร็จใน 30 วัน ซึ่งศาลปกครองคงจะนัดมาอีกครั้ง ขณะเดียวกันตนก็ต้องทำคำชี้แจ้งเพิ่มเติมต่อศาลและได้ส่งคำชี้แจงไปแล้ว โดยรายละเอียดที่ส่งไปชี้แจงว่า คดียังอยู่ในการไต่สวนของคดีอาญาและศาลปกครองได้รับคำร้องไว้แล้ว แต่ขณะนี้กรมบังคับคดีจะต้องดำเนินตามคำสั่งมาตรา 44 ที่จะให้เข้ามายึดและอายัดทรัพย์ได้ทันที เรื่องนี้ทำให้ตนมีความลำบากมากเนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด ทั้งที่ยังไม่รู้ผลคดีอาญาก็จะเป็นการชี้นำ

เมื่อถามว่า คดีจำนำข้าวใกล้ถึงที่สิ้นสุด มั่นใจหรือไม่ว่าจะชนะคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ได้ทำอย่างเต็มที่ และพยานทุกปากที่นำมาสืบต่อหน้าศาลได้ทำอย่างเต็มที่ โดยชี้แจงทุกข้อกล่าวหา ส่วนผลจะเป็นอย่างไรอยู่ที่ดุลยพินิจขององค์คณะ คงไม่สามารถพูดอะไรได้

เมื่อถามว่า ทางป.ย.ป.ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อถามความเห็นเรื่องการปรองดองเข้ามาหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงต้องถามทางพรรค ขณะที่ส่วนตัวนั้นไม่มีใครติดต่อมาเพื่อถามความเห็น ก็ฟังตามหน้าสื่ออยู่

เมื่อถามว่า ช่วงนี้มีกระแสข่าวเรื่องการลอบทำร้ายผู้นำ ในส่วนของตัวเองมีกระแสข่าวแบบนี้ด้วยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วเมื่อก่อนของตนก็เคยได้ยินอยู่ แต่เราก็ไม่เห็นด้วยกับการนำเอาโซเชียลมีเดียมาใช้เป็นข่าวลือ เพื่อให้คนเกิดความตื่นตระหนก ทั้งนี้ ตนคิดว่าคงไม่มีใครที่จะคิดทำร้ายกันจริงๆ หรอก วันนี้ฝ่ายความมั่นคงก็ดูแลทุกตารางนิ้วในประเทศไทยอยู่แล้ว ฝ่ายความมั่นคงคงไม่ปล่อยให้เกิด

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ประเทศไทยถูกสื่อนอกวิเคราะห์ว่า เป็นประเทศที่เสี่ยงต่อการทำรัฐประหารเป็นอันดับ 2 ของโลก น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็คงต้องช่วยกัน อย่างไรก็ตาม อยู่ที่รัฐบาลหรือทาง คสช.ที่จะให้ความมั่นใจว่าจะไม่ทำให้มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก

เมื่อถามว่า เชื่อว่าเมื่อความปรองดองเกิดขึ้นการทำรัฐประหารจะลดลงหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ความจริงแล้วเราไม่ควรจะเกิดรัฐประหาร ในอดีตที่ผ่านมาไม่ควรจะเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำไป เพราะโลกในวันนี้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว จะรัฐประหารแบบไหนก็ตาม ไม่ควรจะเกิดขึ้น ขอร้องทุกฝ่ายอย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลย ขอให้การรัฐประหารที่ผ่านมาเป็นครั้งสุดท้ายเถิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน