เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 3 ก.พ. ร.ต.อ.พนขันธ์ รัตนเนตร ร้อยเวรสอบสวน สภ.วังขอนแดง จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถชนกันจำนวนหลายคัน มีเพลิงลุกไหม้ที่บริเวณ หลักกม.ที่ 210-211 ถนนสาย 304 นาดี-วังน้ำเขียว หน้าศาลเจ้าพ่อโทน หมู่ที่ 4 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย หลังรับแจ้งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมกบินทร์บุรี หลังรับแจ้งเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังรุกไหม้รถบรรทุกอย่างรุนแรง และมีเสียงระเบิดจากถังเชื้อเพลิงที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวี นอกจากนั้นยังพบมีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายรายอยู่ในที่เกิดเหตุ หน่วยกู้ภัยสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี รถดับเพลิงจาก อบต.นาดี อบต.บุพราหมณ์ อบต.ทุ่งโพธิ์และบริษัทอิตาเลียนไทย รวม 5 คัน เข้าทำการฉีดน้ำสกัดเพลิง การสกัดเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากในที่เกิดเหตุมีเสียงแก๊สระเบิดและยังรั่วไหลออกมา
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาและโรงพยาบาลนาดี จ.ปราจีนบุรี นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดอยู่ที่บริเวณใต้ท้องรถบรรทุกพ่วงอีก 1 ราย ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถช่วยเหลือออกมาได้เพราะเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชม. จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการตรวจสอบพบว่าการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ มีรถบรรทุกพ่วง 7 คัน รถยนต์ 1 คัน รถกระบะอีก 2 คัน รวมทั้งหมด 10 คัน โดยเฉพาะรถบรรทุกพ่วง ทะเบียน 72-3210 สมุทรปราการ ที่บรรทุกแป้งมันถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งคัน และที่บริเวณล้อรถด้านหลังพบศพผู้เสียชีวิตถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก 1 ราย ซึ่งรถดังกล่าวชนอยู่กับรถบรรทุกพ่วงทะเบียน 73-4340 ฉะเชิงเทรา ตัวพ่วง 70-4480 ฉะเชิงเทรา รถทั้งสองคันถูกเพลิงไหม้เสียหาย ส่วนรถคันอื่นๆ ที่ประสบเหตุถูกชนได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะรถยนต์ยี่ห้อ มาสด้า 2 สีดำ หมายเลขทะเบียน ขว 4151 ชลบุรี พังเสียหายทั้งคัน คนขับได้รับบาดเจ็บสาหัสติดภายในรถ เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา การเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ส่งผลให้รถทั้งขาขึ้นและลงติดขัดเป็นระยะทางยาวนับสิบกิโลเมตร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงต้องปิดการจราจร พร้อมประชาสัมพันธ์ให้รถทั้งสองฝั่งเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่น
DCIM100MEDIADJI_0035.JPG
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า รถบรรทุกพ่วงตัวแม่ ทะเบียน 73-4340 ฉะเชิงเทรา ตัวพ่วง 70-4480 ฉะเชิงเทรา บรรทุกแป้งมันมาเต็มคันรถ เดินทางจากนครราชสีมา มุ่งหน้า จ.ปราจีนบุรี ขณะที่มาถึงบริเวณเขาศาลเจ้าโทนเป็นทางลงเขาลาดชัน ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวไม่สามารถชะลอความเร็วรถได้ เนื่องจากลมเบรกหมด ทำให้คนขับตัดสินใจแซงรถพ่วงด้านหน้าซึ่งเป็นช่วงทางโค้งลงเขา ถนนลาดชัน คตเคี้ยว ทำให้รถคันดังกล่าวเชี่ยวชนกับรถที่วิ่งสวนทางขึ้นมาอย่างแรง จนเป็นเหตุให้มีรถถูกเชี่ยวชนกันรวมทั้งสิ้น 10 คัน และเพลิงไหม้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
นางสายสุดา ศรีสองชัย อายุ 36 ปี ภรรยานายอาทิตย์ ศรีสองชัย อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกพ่วงส่งแป้งมัน คันที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยสามีนำแป้งมันมาจากโรงงานที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อไปส่งให้ลูกค้าที่ในนิคมอุตสาหกรรม 304 ปราจีนบุรี ขณะที่ขับรถมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ลมเบรกเกิดหมดและฝนตกลงมาโปรยปราย สามีพยายามจะประครองรถและให้ตนกระโดดลงจากรถเพื่อจะนำเอาหินมาลองล้อ แต่รถวิ่งไปชนกับรถบรรทุกที่ด้านและที่กำลังวิ่งสวนมา รวมทั้งรถยนต์คันอื่นๆ เสียไปด้วย จากนั้นจึงเกิดเพลิงไหม้ตามมา ส่วนสามียังหาตัวไม่พบ เป็นตายร้ายดียังไม่รู้ชะตากรรม
ส่วนนายนพดล งามเหลือ นายอำเภอนาดี เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับอำนวยความสะดวกและเคลียร์เส้นทางเพื่อให้เปิดการจราจรเพราะมีรถติดเป็นจำนวนมาก พร้อมกับเปิดเผยว่า การเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ เบื้องต้นทราบว่ามีรถชนกันจำนวนหลายคัน และเกิดเพลิงลุกไหม้ และยังมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย เบื้องต้นยังไม่ทราบรายละเอียดรถคันไหนเป็นคันที่ก่อเหตุ
ส่วนตอนนี้เร่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งกู้ซากรถเพื่อเปิดการจราจรให้เร็วที่สุด เพราะที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยแป้งมันยาวกว่า 500 เมตร และกำลังล้างถนนเพื่อเปิดการจราจรแล้วเสร็จประมาณ 13.00 น.ดังกล่าว
ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอาทิตย์ ศรีสองชัย อายุ 38 ปี คนขับรถบรรทุกแป้งมัน อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.1 ต.โพนเพ็ก อ.บัญจาศีรี จ.ขอนแก่น ส่วนผู้ได้บาดส่งร.พ. 1 ราย ทราบชื่อนายสกิจพงษ์ โคกผา อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/2 ม.11 ต.นาอ้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนอีก 2 ราย อยู่รพ.วังน้ำเขียว ยังไม่ทราบชื่อ
