ทนายโร่ร้องตร.รื้อคดีนักธุรกิจชาวอังกฤษบิ๊กไบก์คว่ำตายที่ภูเก็ต อย่างมีเงื่อนงำ หลังร่วมลงทุนทำธุรกิจกับ 2 พี่น้องคนไทยตระกูลดัง ที่ใกล้ชิดนักการเมือง เสนอโอนหุ้นร้อยละ 99 ให้นายทุน
นักธุรกิจพันล้าน / เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายวินเซนท์ แมคโอเว่น อายุ 50 ปี ชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้รับมอบจากนางซาแมนต้า ซิมส์มอนส์ มารดา นายสตีเว่น เจมส์ แกรนด์วิลล์ อายุ 52 ปี อดีตทนายความและนักธุรกิจสัญชาติอังกฤษ ร้องขอความเป็นธรรมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศูนย์อำนวยการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.)
ตรวจสอบคดี ให้ความเป็นธรรมและอำนวยความยุติธรรมให้แก่ นายสตีเว่น เจมส์ แกรนด์วิลล์ ผู้ล่วงลับ ที่ถูกฉ้อฉลทางธุรกิจ และได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่คล้ายถูกสร้างให้เป็นอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ ได้รับทุกข์ทรมานกายใจจนเสียชีวิตที่บ้านเกิดในประเทศอังกฤษ พร้อมกับธุรกิจ ทรัพย์สมบัติในเกาะภูเก็ตนับพันล้าน ที่สร้างมากับมือ ถูกนักลงทุนไทย ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับนักการเมืองดังในประเทศไทยฮุบเอาไป ทำให้ต้องมีสถานะเป็นลูกหนี้
นายวินเซนท์ กล่าวว่า เหตุเกิดขึ้นหลังจากที่นายสตีเว่นเข้ามาลงทุนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และทำรีสอร์ทในจังหวัดภูเก็ต มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท เมื่อปี 2543 ต่อมามีคดีความฟ้องร้องข้อหาฉ้อโกงประชาชนกับนักธุรกิจชาวอินเดีย ทำให้นายสตีเว่นถูกคุมขังในเรือนจำนานกว่า 1 ปี แต่ภายหลังศาลยกฟ้องนายสตีเว่น จึงกลับมาทำธุรกิจต่อ
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่ 
กระทั่ง ปี 2555 นายสตีเว่นร่วมลงทุนทำธุรกิจกับนายทุน เป็น 2 พี่น้องคนไทยตระกูลดัง ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนักการเมือง โดยยื่นข้อเสนอให้นายสตีเว่น โอนหุ้นร้อยละ 99 ของโครงการให้กับกลุ่มนายทุนดังกล่าว โดยอ้างว่านายสตีเว่น เคยมีคดีความอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
แต่หลังจากทำสัญญาโอนหุ้นเพียง 3 เดือน ในวันที่ 24 มี.ค.2556 นายสตีเว่นประสบอุบัติเหตุบิ๊กไบก์พลิกคว่ำ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.กะรน จังหวัดภูเก็ต แต่พบข้อสงสัยว่ามีเพียงบาดแผลถูกกระแทกด้วยของแข็งที่ศีรษะอย่างรุนแรง แต่ไม่พบบาดแผลถลอกหรือฟกช้ำอื่นๆ ตามร่างกาย
ทั้งที่ประสบอุบัติเหตุทางถนนทำให้นายสตีเว่น ต้องนอนพักรักษาตัวนาน 4 ปี จนเสียชีวิตเมื่อปี 2560 โดยทางญาติมีความเคลือบแคลงใจในสาเหตุการเสียชีวิต
แต่ตำรวจเจ้าของคดีไม่ได้ติดตามคดี ให้มีความคืบหน้า จึงเข้าร้องเรียนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบคดีดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาได้เสียเงินไปกว่า 15 ล้านบาท ในการต่อสู้คดีและหาความจริง มีข้อสงสัยว่านายทุน 2 พี่น้องต้องการหุ้นทั้งหมดไปครอบครอง โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในขั้นศาล เพื่อให้โอนหุ้นคืนให้แก่ญาตินายสตีเว่น
