ลูกสาว โร่ร้องกองปราบ หลวงพ่อหายปริศนา หลังรับกิจนิมนต์ขึ้นไปบนยอดเทือกเขาผาขี้ควาย เปิดปมสงสัย หวั่นถูกลวงไปฆ่า ไม่เชื่อหลงป่า เพราะอยู่ในพื้นที่นานกว่า 40 ปี ระบุหลวงพ่ออาจไม่ได้ขึ้นไปบนเขาเลยด้วยซ้ำ!

จากกรณี พระเด็จ คงกระพันธุ์ อายุ 56 ปี พระลูกวัดบ้านพร้าว ต.บ้านพร้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ที่หายตัวไปอย่างปริศนา หลังจากรับกิจนิมนต์ขึ้นไปนั่งสวดมนต์พิธีปักธง บนยอดเทือกเขาผาขี้ควาย เทือกเขาเขตติดต่อ 3 หมู่บ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า หน่วยเขาช้างล้วง อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ พร้อมชาวบ้านระดมกำลังออกตามหาแล้ว แต่ไม่พบตัว เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : หลวงพ่อหายตัว ลึกลับนาน 8 วัน หลังขึ้นไปรับกิจนิมนต์บนยอดเขาสูง

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 ม.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พา น.ส.ช่อเพชร นวลวัน อายุ 28 ปี ลูกสาวของ พระเด็จ คงกระพันธุ์ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สมเจตน์ แก้วสีดำ รอง สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ป. เพื่อร้องขอให้กองปราบ ช่วยสอบสวนเนื่องจากสงสัยว่าอาจเป็นเหตุฆาตกรรม

น.ส.ช่อเพชร กล่าวว่า หลังจากหลวงพ่อรับกิจนิมนต์ขึ้นไปบนยอดเทือกเขาผาขี้ควาย โดยเดินทางขึ้นไปกับ พระอำนาจ (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งอยู่วัดเดียวกัน หลังจากนั้นก็หายตัวไป ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2561 จึงเข้าแจ้งความที่สภ.นครไทย พร้อมกับระดมคนช่วยกันค้นหาแต่ยังไม่เจอ ซึ่งขณะนี้ก็ใกล้จะครบ 1 เดือนแล้ว

น.ส.ช่อเพชร กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าน่าจะเกิดเรื่องผิดปกติ เพราะเวลาหลวงพ่อรับกิจนิมนต์ที่ไหน ก็จะบอกทางบ้านทุกครั้ง ส่วนเรื่องหลงป่ายิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะอยู่ในพื้นที่มานานกว่า 40 ปี อีกทั้งยังไม่ใช่ป่าที่รกทึบอะไร จึงไม่มีทางที่จะหลงป่าอย่างแน่นอน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“ที่ตนเชื่อว่าอาจเป็นเหตุฆาตกรรม เพราะได้สอบถามกับพระอำนาจที่ไปด้วยกัน ก็บอกเพียงว่าไปด้วยกันจริง แต่เกิดพลัดหลงกัน เพราะหลวงพ่อเดินตามไม่ทัน แต่ตนไม่เชื่อ เพราะหากหลวงพ่อจะไปรับกิจนิมนต์ในป่า ก็ต้องเตรียมไฟฉาย หรือข้าวของเครื่องใช้ไปด้วย แต่ของใช้ที่กุฏิก็ยังอยู่ครบ นอกจากนี้ ตำรวจสภ.นครไทย เคยเข้าไปตรวจสอบภายในกุฏิก็มีร่องรอยถูกรื้อค้น โดยพบจีวรกับผ้าห่มถูกฝังรวมกันไว้บริเวณหลังกุฏิ และยังพบอีกว่าผ้าห่ม 2 ผืนถูกซักตากไว้ด้วย เพราะตามปกติหลวงพ่อจะให้ทางบ้านซักให้ทุกครั้ง” น.ส.ช่อเพชร กล่าว

น.ส.ช่อเพชร กล่าวอีกว่า ที่ตนสงสัยในตัวพระอำนาจ เพราะเคยมีปัญหากับหลวงพ่อเรื่องยืมเงิน เพราะพระอำนาจเคยมายืมเงินหลวงพ่อไป 2,000 บาท แต่ไม่ได้คืน ก่อนเกิดเหตุพระอำนาจก็มายืมเงินอีก 200 บาท ครั้งนี้หลวงพ่อไม่ให้ จึงเกิดปากเสียงกันอย่างรุนแรง ที่ผ่านมาพระอำนาจให้การกับตำรวจไว้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะเคยบอกว่า รับกิจนิมนต์ไปกับหลวงพ่อ และยังมีเณรไปด้วย รวมเป็น 3 รูป

“ซึ่งมีชาวบ้านเห็นพระอำนาจและเณรขึ้นรถไปด้วยกันจริง แต่ไม่มีใครเห็นหลวงพ่อ จึงเชื่อว่าหลวงพ่อไม่ได้ขึ้นไปบนเขาเลยด้วยซ้ำ ขณะนี้พระอำนาจถูกให้สึกไปแล้ว เนื่องจากถูกตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย” น.ส.ช่อเพชร กล่าว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับคดีไว้ พร้อมสอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน ก่อนให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน