เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.พ. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายปรมัตถ์ ปุณริบูรณ์ นำอดีตครูโรงเรียนบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ 4 คน คือนางละมัย ปุณริบูรณ์ อายุ 54 ปี, นางบัวลอย คล่องดี อายุ 58 ปี, นางอำคา ภูต้องใจ อายุ 56 ปี และนางขวัญภักดิ์ โพธิ์คง อายุ 55 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้รื้อฟื้นคดีถูกกล่าวหาว่าให้การเท็จเพื่อการช่วยเหลือนายชูศักดิ์ สุทธศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบึงโขงหลงวิทยา จำเลยในคดีอาญาและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางวัตถุพยานในการกระทำความผิด หลังถูกศาลพิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 4 คน เป็นเวลา 4 ปี โดยอดีตครูทั้ง 4 คนร้องขอความเป็นธรรม เพื่อให้กระทรวงยุติธรรมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อรื้อฟื้นคดีใหม่

นางบัวลอย กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 3 มี.ค.2552 ซึ่งพวกตนกำลังจัดงานเลี้ยงสังสรรค์และมีการดื่มสุรากันอยู่ที่อาคารพยาบาลภายในโรงเรียน ระหว่างสังสรรค์กันอยู่นั้นมีคนร้ายบุกเข้ามายิงนายเพทาย อมัติรัตนะ ครูโรงเรียนหนองสิมโนนสวรรค์ เพื่อนครูของนายชูศักดิ์ 3 นัด ก่อนแทงซ้ำ จนถึงแก่ความตาย โดยผู้ตายและนายชูศักดิ์ สวมเสื้อสีฟ้าคอโปโลเหมือนกัน หลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นพวกตนเห็นว่างานเลี้ยงเลิกแล้ว และเกรงว่าจะมีความผิดทางวินัย เพราะนำสุรามาดื่มในสถานที่ราชการ จึงเก็บขวดเหล้าและแก้วเหล้าไปทิ้ง

นางบัวลอย กล่าวต่อว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ได้ควบคุมตัวนายชูศักดิ์ไปดำเนินคดีข้อหาฆ่าคนตาย ซึ่งพวกตนไปให้การในฐานะพยานว่านายชูศักดิ์ไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ แต่มีคนร้ายบุกเข้ามายิงนายเพทายจนเสียชีวิต ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนายชูศักดิ์ เนื่องจากมีหลักฐานไม่เพียงพอ แต่ตนกับพวกอีก 3 คน กลับถูกพนักงานสอบสวน สภ.บึงโขงหลง เเจ้งข้อหา แจ้งความเท็จ ให้การเท็จ และข้อหาปิดบัง ซ่อนเร้น ทำลายวัตถุพยาน เนื่องจากวันเกิดเหตุพวกตนเก็บของพวกขวดสุราไปทิ้ง เพราะเกรงว่าจะมีความผิดทางวินัย จึงถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 4 ปี ก่อนได้รับการพระราชทานอภัยโทษ 3 ครั้ง จากจำคุก 4 ปี เหลือจำคุก 1 ปี 1 เดือน 10 วัน และพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2559 ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ตนยื่นเรื่องต่อศาลอุทรณ์เพื่อต่อสู้คดี แต่ศาลไม่รับฟ้อง

นางบัวลอย กล่าวอีกว่า พวกตนต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และขอให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พิจารณารับพวกตนกลับเข้ารับราชการ เนื่องจากยังเหลืออายุราชการอีกหลายปี โดยก่อนหน้านี้ถูกคำสั่งไล่ออกจากราชการ แต่หลังจากกระทรวงยุติธรรมเริ่มเข้ามาให้การช่วยเหลือ ศธ.จึงเปลี่ยนคำสั่งเป็นการปลดออก ทำให้ยังคงได้รับเงินบำเหน็จ บำนาญ อย่างไรก็ตามขอย้ำว่าพวกตนไม่ได้ทำผิด แต่ทำไมต้องเข้าไปติดคุกด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ทางกระทรวงยุติธรรมได้ลงพื้นที่ไปรวบรวมพยานหลักฐาน และได้ทำสำนวนคดีไว้แล้ว จากนี้จะส่งสำนวนให้กับพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน