ไฟไหม้บ้านชั้นเดียว ชุมชนโนนจานช่วงเช้ามืด หนุ่มวัย 21 ปี นอนไม่รู้สึกตัว หนีไม่ทัน โดนไฟคลอกย่างสด ดับคากองเพลิง ตร.เร่งสอบหาสาเหตุ พร้อมส่งให้แพทย์ชันสูตรศพอีกครั้ง
ไฟไหม้ / เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.วิเชียร วชิรแสงไพโรจน์ ผกก.สภ.เมืองอำนาจเจริญ ว่าเมื่อช่วงเวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ บ้านชั้นเดียว เลขที่ 235 ชุมชนบ้านโนนจาน ม.2 ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ และมีคนติดอยู่ภายในบ้าน 1 คน จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.พิสิษฐ์ รักษาผล สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ รุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เทศบาลเมืองอำนาจเจริญ เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอำนาจเจริญ และแพทย์เวรโรงพยาบาลอำนาจเจริญ ร่วมตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านปูนชั้นเดียว โดยไฟลุกไหม้ออกมาจากบริเวณห้องภายในบ้านอย่างรวดเร็ว และมีคนติดอยู่ภายใน ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถฝ่าเปลวเพลิงเข้าไปช่วยเหลือได้ จึงระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงไหม้ไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง และใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงจะสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่บ้านพบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือนายเดชา สิงหนองโดน อายุ 21 ปี ตายในซากกองเพลิง ดำเป็นตอตะโก
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
จากการสอบสวนนางวิภาพร ทินทุมาตย์ อายุ 52 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้าน ให้การว่า ปกติตนทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ เพิ่งเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านได้ 4-5 วัน ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตาย ซึ่งเป็นเด็กที่แม่ของตนรับมาเลี้ยง นอนอยู่ภายในห้อง ซึ่งอยู่ติดกับห้องพระ ส่วนตนและคนอื่นๆ ก็นอนภายนอกห้อง ก่อนเกิดเหตุได้กลิ่นไหม้มาจากภายในห้องพระ ด้วยความตกใจตนจึงได้พาแม่ของตนที่ป่วยหนีออกมาก่อน
โดยที่ตอนแรกก็คิดว่าผู้ตายนั้นหนีออกมาก่อนแล้ว จึงได้ไม่เอะใจอะไร จนกระทั่งพากันหนีออกมาข้างนอกจนหมดแล้ว แต่ก็ไม่เห็นผู้ตาย จึงคิดว่าคงติดอยู่ภายในบ้าน ก่อนที่จะพากันช่วยดับเพลิง และโทรแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาช่วยดับเพลิงที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว เจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปเคลียร์พื้นที่บ้านหลังที่ถูกเพลิงไหม้ พบศพหนุ่มวัย 21 ปี นอนตายในซากกองเพลิง ก่อนที่จะนำตัวออกมา และให้แพทย์ชันสูตรศพอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะมอบศพให้ญาติต่อไป โดยหลังจากที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าพิสูจน์ เพื่อที่จะหาสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ว่าเกิดจากสาเหตุใด เพื่อที่จะเร่งได้สรุปสำนวนคดีต่อไป
