ตำรวจระดมกำลังจับกุมคนต่างด้าว-หลบหนีเข้าเมือง!

เมื่อเวลา 01.15 น. วันที่ 25 ม.ค. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. นำกำลังตำรวจ สตม.ตำรวจท่องเที่ยวตำรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191, หน่วยอรินทราช 26, หน่วยรบพิเศษสยบไพรี และตำรวจ สน.ห้วยขวาง ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ปิดล้อม ตรวจค้นที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว ร.ร.สอนภาษา ร.ร.เอกชน จำนวน 217 จุดทั่วประเทศ จับกุมชาวต่างชาติ 503 ราย ที่กระทำผิดโอเวอร์สเตย์ หลบหนีเข้าเมือง และ พ.ร.ก.การทำงานของคนต่างด้าว

พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวว่า สืบเนื่องจาก ตามนโยบายของรัฐบาล ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกวดขันจับกุมกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศโดยแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อเข้ามาก่ออาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมที่กระทบกับความมั่นคงส่งผลต่อภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของประเทศไทย เช่น กลุ่มเครือข่ายหลอกลวงแต่งงาน (Romance Scam) กลุ่มเครือข่ายผลิตและปลอมบัตรเครดิต (Skimming) กลุ่มชาวต่างชาติที่ตั้งตัวเป็นกลุ่มกระทำผิดอาชญากรรมต่างๆ และยาเสพติด รวมถึงกลุ่มชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่ในประเทศโดยการอนุญาตสิ้นสุดลง ในปัจจุบันผู้กระทำความผิดได้พัฒนาวิธีการให้มีความซับซ้อน และหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่รัฐ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้สนองนโยบายรัฐบาล โดยมีผลการปฏิบัติที่สำคัญ ได้ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จำนวน 217 เป้าหมาย ทั่วประเทศ สามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาได้ ทั้งหมด 503 ราย โดยจับกุมข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” จำนวน 13 ราย (สัญชาติอิหร่าน 4 ราย, ลาว 3 ราย, รัสเซีย 2 ราย, อเมริกา 1 ราย, อินเดีย 1 ราย, จีน 1 ราย, มองโกเลีย 1 ราย) จับกุมข้อหา “เป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จำนวน 252 ราย (สัญชาติลาว 94 ราย, เมียนมา 86 ราย, กัมพูชา 68 ราย, เวียดนาม 2 ราย, อินเดีย 1 ราย, เกาหลีใต้ 1 ราย) จับกุมข้อหาอื่นๆ จำนวน 238 ราย (สัญชาติไทย 121 ราย, กัมพูชา 50 ราย, เมียนมา 40 ราย, ลาว 6 ราย, เวียดนาม 6 ราย, อินเดีย 3 ราย, ฟิลิปปินส์ 2 ราย, จีน 2 ราย, ออสเตรเลีย 2 ราย, รัสเซีย 2 ราย, อังกฤษ 1 ราย, เกาหลีใต้ 1 ราย, กรีก 1 ราย, เยอรมัน 1 ราย

“สำหรับการตรวจสอบครั้งนี้ ได้ตรวจสอบเป้าหมายจำนวนทั้งสิ้น 217 เป้าหมาย แบ่งเป็นเป้าหมาย โรงเรียน/สถานศึกษา 4 เป้าหมาย, บริษัท/ร้านค้า 73 เป้าเหมาย, สถานบริการ 6 เป้าหมาย, โรงแรม/หอพัก/ที่อยู่อาศัย 50 เป้าหมาย และ เป้าหมายอื่นๆ จำนวน 84 เป้าหมาย รวมยุทธการ 43 ครั้ง ตรวจค้นเป้าหมาย 6,469 เป้าหมาย จับกุมผู้กระทำความผิดได้ ทั้งหมด 6,971 ราย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน