เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 ก.พ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม พร้อมด้วยเจ้าหน้า สตม.แถลงผลจับกุม อาชญากรข้ามชาติรายสำคัญ จำนวน 3 คดี ประกอบด้วย คดีแรกชาวยูเครนก่อเหตุแฮกข้อมูลบัตรเครดิตธนาคารอเมริกา นำมาปลอมบัตรตระเวนรูดซื้อสินค้าในประเทศไทย เป็นเอเย่นต์ขายข้อมูลบัตรให้ต่างชาติ และเตรียมก่อเหตุครั้งใหญ่ ปล่อยมัลแวร์โจมตีระบบเอทีเอ็มธนาคารไทย

คดีที่ 2 ชาวจีนเครือข่ายฮั้วประมูลรายใหญ่ จ่ายสินบนเจ้าหน้าที่จีน ฮั้วประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้า มูลค่าความเสียหายกว่า 150 ล้าน และคดีที่3 ชาวออสเตรียหัวหน้าเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ ใช้ไทยเป็นฐานลักลอบขนกัญชานับร้อยกิโลกรัมจากอินเดียเข้ายุโรป

พล.ต.ท.ณัฐธร เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่สตม. สืบสวนหาข่าวอาชญากรข้ามชาติในประเทศไทย และทำให้สามารถจับกุมอาชญากรข้ามชาติได้ โดยคดีที่แรก เป็นคดีที่สำคัญ ฝ่ายสืบสวนสตม.ทำการจับกุมนายโอเล็กซานเดอร์ กราชโกวสกี อายุ 31 ปี สัญชาติยูเครน ก่อเหตุแฮกข้อมูลบัตรเครดิตธนาคารในสหรัฐนำมาปลอมบัตร ตระเวนกดเงินและรูดซื้อสินค้าในประเทศไทย เป็นเอเย่นต์ขายข้อมูลบัตรให้ต่างชาติ พบข้อมูลเตรียมก่อเหตุครั้งใหญ่ ปล่อยมัลแวร์โจมตีระบบเอทีเอ็มธนาคารไทย หลังจากเกิดเหตุโจมตีระบบเอทีเอ็มของธนาคารไทยแห่งหนึ่ง เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว สร้างความเสียหายหลายสิบล้านบาท จึงได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สตม. เฝ้าติดตามแก๊งชาวยุโรปตะวันออก (ยูเครน) ซึ่งมีพฤติกรรมทำบัตรเครดิตปลอมและนำไปใช้กดเงินสดและรูดซื้อสินค้า ตามย่านแหล่งช้อปปิ้งที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

จนกระทั่งวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา นายโอเล็กซานเดอร์ก่อเหตุที่ห้างดังแห่งหนึ่งย่านประตูน้ำ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนขอตรวจหนังสือเดินทาง และขอตรวจสอบบัตรเครดิตที่ใช้ซื้อสินค้า เบื้องต้นพบว่าเป็นบุคคลต่างชาติอยู่เกินกำหนด จากนั้นนำตัวไปตรวจสอบห้องพักที่ อาคารกิตติ เลขที่ 293/10 ซ.หมอเหล็ง แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พบบัตรพลาสติกมีแถบแม่เหล็กสีขาว จำนวน 56 ใบ, เครื่องเขียนข้อมูลบนลงบัตร, เครื่องอ่านข้อมูลในบัตร, อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ปลอมแปลงบัตรเป็นจำนวนมาก

ซึ่งจากการสอบสวนนายโอเล็กซานเดอร์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ทำบัตรเครดิตปลอมเพื่อนำมารูดซื้อสินค้าในประเทศไทย โดยได้รับข้อมูลบัตรเครดิตจากเครือข่ายชื่อ “Credit Card Mafia” ในประเทศอเมริกาและยุโรป นอกจากนี้ ยังเป็นเอเย่นต์ขายข้อมูลบัตรให้กลุ่มอาชญากรข้ามชาติในหลายประเทศ โดยติดต่อผ่านอีเมล์และโอนเงินข้ามประเทศ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคนร้ายพบข้อมูลบัตรเครดิต ที่แฮกมาได้หลายร้อยรายการจากอเมริกาและยุโรป

นอกจากนี้ ยังตรวจพบข้อมูลว่าคนร้ายเตรียมก่อเหตุครั้งใหญ่ โจมตีระบบเอทีเอ็มของธนาคารในประเทศไทย โดยการปล่อยมัลแวร์ เนื่องจากพบภาพถ่ายตู้เอทีเอ็มเป้าหมาย ในหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยคนร้ายจะแยกตามธนาคารและรุ่นของตู้เอทีเอ็ม เนื่องจากตู้แต่ละรุ่นมีวิธีการเจาะระบบที่แตกต่างกัน และพบข้อมูลอุปกรณ์การปล่อยมัลแวร์ ลักษณะคล้ายเกิดเหตุกับตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยแห่งหนึ่ง มูลค่าความเสียหายหลายสิบล้าน จากข้อมูลการสืบสวนเชื่อได้ว่า คนร้ายเตรียมก่อเหตุกับระบบเอทีเอ็มของธนาคารในไทยหลายแห่ง

จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน จากข้อมูลการเดินทางพบว่า นายโอเล็กซานเดอร์ กราชโกวสกี เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อ วันที่ 11 มี.ค.2559 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว ได้รับอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 25 มี.ค.2559 ปัจจุบันอยู่เกินกำหนด เจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีตามกฎหมายและขยายผลถึงเครือข่ายในประเทศไทยต่อไป

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2560 บก.สส.สตม.ร่วมกับ ด่าน ตม.จว.ชลบุรี จับกุมนายหลิว ฉี เฟิง อายุ 46 ปี เกิดวันที่ 3 พ.ค.2514 ถือหนังสือเดินทางสาธารณรัฐประชาชนจีน เลขที่ G57365950 ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวกฮั้วประมูลโรงไฟฟ้าเฟิงเฉิน โดยได้ติดต่อกับบริษัทคู่แข่งอีก 9 บริษัท และจ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่คอรัปชั่น ทำให้บริษัท อู่ฮันคอนสตรัคชั่น จำกัดชนะการประมูลไปในราคา 32 ล้านหยวน (150 ล้านบาท)

ต่อมาเมื่อวันที่ 30 พ.ย.2559 ทางการตำรวจเมืองอี่ชุน มณฑลเจียงซี ออกหมายจับ นายหลิว ฉี เฟิง จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนติดตามตัวได้ในที่สุด นายหลิว ฉี เฟิง เดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2559 ทางด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยวีซ่าประเภท นักท่องเที่ยว (60 วัน) ได้รับการอนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรถึงวันที่ 28 ม.ค.2560 สตม. ได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 อนุ 7 และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับคดีที่ 3 วันที่ 31 ม.ค.2560 ทางเจ้าหน้าที่กก 1.บก.สส.สตม. และด่านตม.จว.ชลบุรี ร่วมจับกุม นายโรแลนด์ จอร์จ อิลเมอร์ อายุ 57 ปี สัญชาติออสเตรีย หัวหน้าเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติร่วมกับชาวจีนในการลักลอบขนกัญชา จำนวน 98 กิโลกรัม จากประเทศอินเดียเข้าสวิตเซอร์แลนด์และออสเตรีย โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานบัญชาการ ตามหมายจับจากตำรวจสากล

คดีนี้ สตม.ได้รับการประสานงานจากสถานทูตออสเตรียประจำประเทศไทยว่า นายโรแลนด์สัญชาติออสเตรีย หัวหน้าเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีหมายจับตำรวจสากลได้หลบซ่อนอยู่ในประเทศไทย สตม. จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกติดตามจับกุม จนทราบว่า นายโรแลนด์พักอาศัยอยู่ในจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ในการเคหะชุมชนพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากข้อมูลการเดินทางพบว่า นายโรแลนด์เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อ วันที่ 7 ส.ค.2555 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว 60 วัน ได้รับอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 5 ต.ค.2555 ปัจจุบันอยู่เกินกำหนดกว่า 1,500 วัน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พัทยา เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน