วงจรปิดมัด! ล่าหนุ่มฆ่าหญิงตายคาคอนโด-ชิงทรัพย์ เคยยืมเงินแสน ประสานตม.สกัด!

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 12 ก.พ. ร.ต.ท.พิเชฐศักดิ์ ปิยรัตนสถิตย์ รองสว.(สอบสวน)สน.บางเขน รับแจ้งเหตุมีหญิงถูกฆาตกรรม ภายในคอนโดมิเนียม ซอยพหลโยธิน 52 ถนนพหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม.จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยพ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน, พ.ต.ท.นิรุชพล โยธามาตย์ รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.ปรเมษฐ โพยนอก รองผกก.สส.สน., พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี สว.(สอบสวน), พ.ต.ท.นิเวศน์ นิลวดี สว.สส., พ.ต.ต.เข็มกล้า มั่นพลับ สวป., ร.ต.อ.พรชัย หว่องประเสริฐการ รอง สว.สส.สน.บางเขน, เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) แพทย์นิติเวชร.พ.ภูมิพล และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดฯ สูง 4 ชั้น อาคาร 4 ชั้น 2 ที่ห้องที่เกิดเหตุ พบว่าประตูถูกปิดล็อกจากด้านใน เจ้าหน้าที่จึงต้องถอดกระจกบานเกล็ดหน้าต่างออก เพื่อปลดล็อกประตูด้านใน จากการตรวจสอบพบศพ น.ส.อารยา ทรัพย์สวรรค์ อายุ 70 ปี อาศัยอยู่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. สภาพสวมเสื้อแขนยาวลายดอก กางเกงขายาวสีดำ นอนหงายลิ้นจุกปากอยู่บนเตียงนอน ที่บริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำ เบื้องต้นแพทย์ ระบุว่าผู้ตายเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 9 ช.ม.ก่อนนำศพส่งสถาบันนิติเวชดำเนินการต่อไป

จากการตรวจสอบภายในห้องพบการรื้อค้นทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมลายนิ้วมือภายในห้องพักดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนนายวีรวิชญ์ เชื้อสุขศานต์ทอง อายุ 30 ปี ลูกชายผู้ตาย ให้การว่า แม่ของตนมีอาชีพขายเสื้อผ้าส่ง-ปลีก อยู่ย่านสะพานใหม่ ก่อนเกิดเหตุตนได้รับโทรศัพท์จากน้องชายว่าแม่หายตัวไปตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยแม่บอกเพียงว่าจะไปเปิดห้องเช่าให้คนที่มาเช่าห้องที่คอนโดฯ ดังกล่าวและให้พ่อเป็นคนเฝ้าร้านขายเสื้อผ้า จนกระทั่งช่วงเวลา 21.00 น. แม่ก็ยังไม่กลับเข้าบ้าน ตนและน้องชายจึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อแม่อีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีการตอบรับ จึงเดินทางมาที่คอนโดฯ ดังกล่าวและพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียนป้ายเขียว 1 ฒม 1523 กทม. ของผู้ตายจอดอยู่ จึงรีบขึ้นไปดูบนห้องพบว่าประตูปิดล็อก ภายในห้องปิดไฟมืด จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบจนทราบว่าแม่เสียชีวิตดังกล่าว

ด้านพ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของคอนโดฯ พบว่ามีชายต่างชาติสัญชาติจีน อายุประมาณ 40 ปี เข้าไปในห้องดังกล่าวพร้อมกับผู้ตาย เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. จากนั้นชายคนดังกล่าวได้เดินออกมาจากห้องเพียงคนเดียว เมื่อเวลา 15.00 น. โดยในมือกำเชือกและถุงพลาสติกใส่ของบางอย่างออกมาด้วย ซึ่งจากการสอบถามญาติผู้ตายทราบชายดังกล่าวเป็นชาวจีนที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทยและติดต่อขอเช่าห้อง โดยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาชายชาวจีนคนดังกล่าวยังเคยยืมเงินจำนวน 120,000 บาท และยังได้ขโมยบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายและนำไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม จำนวน 8 ครั้ง รวม 400,000 บาท ก่อนจะหลบหนีกลับประเทศจีน และขาดการติดต่อไป จนกระทั่งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาผู้ตายได้รับการติดต่อจากชายชาวจีน ว่ากลับมาว่าจะคุยเรื่องการคืนเงินที่ยืมไป โดยนัดพูดคุยกันกับผู้ตายที่ห้องดังกล่าว

พ.ต.อ.อำนาจกล่าวอีกว่า เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายจะถูกฆ่าชิงทรัพย์เนื่องจากทรัพย์สินของผู้ตายได้หายไปประกอบด้วยสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท สร้อยข้อมือ หนัก 2 บาท แหวน 1 สลึง นอกจากนี้ยังพบรอยรื้อค้นทรัพย์สินภายในห้องอีกด้วย หลังจากนี้จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวน ออกติดตามตัวชายชาวจีนคนดังกล่าวและประสานไปยัง สตม.เพื่อป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน