รวบตีนแมว ปีนบ้านทนายความฉกเซฟใส่ทองคำแท่ง พระเครื่อง ก่อนนำไปขายได้เงินกว่า 1 ล้าน ก่อนเอาตู้เซฟไปโยนทิ้งคลอง จากนั้นย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ ก่อนมาถูกตร.ล็อกตัวได้ สารภาพทำจริงต้องการเงินไปใช้จ่าย เผยมีหมายจับลักทรัพย์ ข่มขืนกระทำชำเราติดตัว

รวบตีนแมว / เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น. ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.ท.สถาพร ตระกูลสุนทรชัย สว.สส.สน.สุทธิสาร ชุดสืบสวนสน.สุทธิสาร และชุดสืบสวนบก.น.2

จับกุมนายบรรจง ลิ้นจี่ อายุ 33 ปี จับกุมได้บริเวณปากซอยหทัยราษฎร์ 25 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี พร้อมของกลาง เงินสด 995,290 บาท ตู้เซฟถูกงัด ชุดเสื้อผ้าที่ใส่วันก่อเหตุ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ก.พ. เวลา 10.30 น. เกิดเหตุคนร้ายลักทรัพย์บ้านเลขที่ 619/1 ซอยลาดพร้าว 48 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ผู้เสียหายประกอบอาชีพทนายความและเก็บสะสมทองไว้ในตู้เซฟ คนร้ายอาศัยจังหวะที่คนในบ้านไม่อยู่ ปีนข้ามกำแพงรื้อค้นและลักเอาตู้เซฟ หนัก 20 กิโลกรัม ไป

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุดังกล่าวคือนายบรรจง ลิ้นจี่ อายุ 33 ปี ก่อเหตุดังกล่าวก่อนที่จะห่ออำพรางนำตู้เซฟใส่ถุงผ้าแล้วออกจากบ้านดังกล่าว โดยอาศัยเรียกรถสามล้อมารับเพื่อเดินทางไปที่ซอยประชาสงเคราะห์ 27 ถนนประชาสงเคราะห์ใกล้กับแยกสะพานควาย หาอุปกรณ์งัดตู้เซฟดังกล่าว

แต่ร้านปิดจึงเรียกรถแท็กซี่อีกครั้ง เพื่อนำตู้เซฟไปเก็บไว้ที่ห้องพัก ย่านซอยงามวงศ์วาน 18 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี นนทบุรี ก่อนยืมอุปกรณ์เลื่อยตัดเหล็กกับซะแลงเหล็ก ของยามหอพักดังกล่าว เมื่องัดตู้เซฟออกมาพบว่ามีถุงใส่ทรัพย์สิน 2 ถุง ถุงแรกเป็นเอกสาร และอีกถุงใส่ทองคำเอาไว้

จากการสอบสวน นายบรรจงรับสารภาพว่า ก่อเหตุดังกล่าวจริง เพื่อต้องการเงินไปใช้จ่าย หลังจากงัดตู้เซฟแล้วนำตู้เซฟดังกล่าวไปโยนทิ้งในคลองท้ายซอยซอย จุฬาเกษม 16/4 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ใกล้กับหอพักที่พักอาศัยเพื่อทำลายหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและมูลนิธิร่วมกตัญญู ช่วยกันนำของกลางดังกล่าวขึ้นมาได้

ต่อมานายบรรจงนั่งรถแท็กซี่ไปขอเพื่อนพักอาศัยอยู่ที่หอพักย่านเขตมีนบุรี แล้วนำทองคำไปขายที่ร้านขายทองบริเวณแยกมีนบุรี 2 ครั้ง ครั้งแรกขายไป 20 บาท มูลค่า 390,000 บาท ต่อมานำไปขายอีก 50 บาท มูลค่า 975,000 บาท รวมทองคำ 70 บาท มูลค่า 1,365,000 บาท ก่อนนำเงินไปซื้อโทรศัพท์และเก็บเงินสดที่เหลือไว้กับตัว

จากนั้นเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ไปขอพักอาศัยกับเพื่อนที่เรีสอร์ท ย่านถนนหทัยราษฎร์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี แล้วแอบซุกซ่อนทรัพย์ทองคำแทง 221 บาท ทองรูปพรรณ 2 ชิ้น เงินสดจำนวน 54,000 บาท โดยสามารถติดตามของกลางทองคำแท่งหนัก 221 บาท มูลค่า 4,400,000 บาท ทองคำรูปพรรณ 2 เส้น เงินสดที่ได้จากการขายทองคำ 1,049,290 บาท พระเครื่องเลี่ยมกรอบทองคำ 1 องค์ มูลค่า 5,500,000 บาท

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า มีหมายจับข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานบริเวณหอพักเนเจอร์เพลสห้อง 406 ม.5 ต.ศาลายา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.51 ข้อหาชิงทรัพย์ บริเวณห้อง 404 อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 6 ถ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร

ข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา สน.ดินแดงเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.53 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.53 โดยติดคุกจริง 1 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.54-วันที่ 11 ก.พ.60 ก่อนออกจากคุกมาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งลักทรัพย์ในเคหะสถาน ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสน.สุทธิสาร ดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน