มหกรรมอาหารจานเด็ดวันสุดท้ายยังคึกคัก แห่เข้าคิวยาวล้นฮอลล์เรียกร้องจัดอีกปีหน้า

ปิดฉากประสบความสำเร็จอย่างสวยงามกับงานมหกรรมอาหารจานเด็ด food fest 2016 วันสุดท้ายคนร่วมงานคึกคักเนืองแน่น เข้าคิวยาวล้นเอ็มซีซีฮอลล์ ประชาชนเรียกร้องขอให้ขยายพื้นที่และเพิ่มวันในการจัดงาน

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ นสพ.ข่าวสด ร่วมกับ เพจบล็อกเกอร์แนะนำอาหารสุดฮิตชื่อดัง สตาร์ฟวิ่งไทม์ (Starvingtime เรื่องกินเรื่องใหญ่) จัดงาน “มหกรรมอาหารจานเด็ด Food Fest 2016” ระหว่างวันที่ 22-25 ก.ย. งานนี้เปิดให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงอาหารดี อร่อย ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น และส่งเสริมอัตลักษณ์อาหารท้องถิ่นแต่ละจังหวัดแต่ละภูมิภาคที่มีลักษณะเฉพาะให้เป็นที่รู้จัก สร้างแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น

สำหรับบรรยากาศภายในงานวันที่ 4 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย มีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานกันอย่างเนืองแน่น จนถึงขั้นเข้าแถวต่อคิวยาวล้นทุกบูธ และประชาชนถ่ายรูปอาหารลงสื่อโซเชียลต่างๆ ภายในงานมีร้านอาหารยอดนิยมและอาหารเด่นจากภูมิภาคต่างๆ กว่า 180 บูธ นอกจากนี้ ทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ได้ตั้งบูธจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ต “Legend of the Rock Stars” รวมพลร็อกเกอร์ระดับตำนาน “ป้าง”นครินทร์ กิ่งศักดิ์, วงบิ๊กแอส และ เสก โลโซ ในวันที่ 22 ต.ค.นี้ เวลา 19.00 น. ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี และเปิดจองทาง www.thaiticketmajor.com บัตรราคา 900, 1,200, 1,500 และ 2,000 บาท

ส่วนกิจกรรมบนเวทีในวันนี้ซึ่งเป็นสุดท้ายของการจัดงาน เริ่มด้วยช่วงฟู้ดไอดอล พบกับ “ข้าวธรรมธุรกิจ” ของ พิเชษฐ์ โตนิติวงศ์ ผจก.ทั่วไป บริษัท ธรรมธุรกิจ ชาวนาธรรมชาติ จำกัด โดย พิเชษฐ์ กล่าวว่า การที่จะทำให้ชาวนามีชีวิตที่มั่งคั่งยั่งยืน คือจะต้องใช้องค์ความรู้ด้านศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่น และการก้าวบันไดครบ 9 ขั้น และใช้เศรษฐกิจพอเพียง หลังจากที่ดำเนินการธุรกิจนี้มา 3 ปี เราได้ส่งเสริมให้ชาวนาเลิกใช้สารเคมีในการทำนา

“สิ่งที่สำคัญในการทำธุรกิจการที่จะยั่งยืนได้นั้น อยู่ที่ธุรกิจนั้นมีคุณธรรมหรือไม่ มีธรรมหรือไม่ เป็นธรรมหรือไม่ ถ้าไม่มีธรรมสักวันคุณก็ร่วง ธรรมคือธรรมะไม่ว่าศาสนาใดก็ตาม เพราะทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดีทั้งหมด จะต้องเอาหลักธรรมของแต่ละศาสนามาใช้ในการทำธุรกิจให้ได้” พิเชษฐ์กล่าว

จากนั้นพูดคุยกับอารีย์ เพ็งสุทธิ์ กับธุรกิจ “เฮย์เดย์ฟาร์ม-ผลิตภัณฑ์แปรรูปเห็ดสวรรค์” โดย อารีย์ กล่าวว่า เมื่อก่อนทำงานธนาคารแล้วถูกเลิกจ้างประกอบกับชอบเล่นเกมส์เฮย์เดย์ฟาร์ม จึงมีแนวคิดอยากทำธุรกิจให้มีรายได้เหมือนในเกมส์ เลยทำธุรกิจที่เป็นของจริงไม่ใช่เกมส์ โดยเริ่มต้นจากน้องชายมีความรู้เรื่องการเพาะเห็ดจึงเริ่มเพาะเห็ดก่อน เลยตระเวนหาเช่าที่ประมาณ 4-5 เดือน พอได้เช่าที่ก็ลงทุนทำโรงเพาะเห็ดจากนั้นได้ขยายเพิ่มการปลูกผักขึ้นมาอีก เช่น ต้นอ่อนทานตะวัน ต้นอ่อนผักบุ้ง ฯลฯ เพื่อนำมาขายเสริมในวันที่ไม่มีรายได้

“ธุรกิจนี้ทำมาประมาณ 1 ปี การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้นจุดเริ่มต้นคือจะต้องเริ่มต้นที่ความชอบก่อน เวลาที่จะทำอะไรที่ประสบความสำเร็จจะต้องเริ่มต้นที่ความชอบ และมีใจรักเสียก่อน ถ้าเราชอบและรักจะทำให้ธุรกิจไปรอด และการทำธุรกิจนั้นจะต้องถามใจตัวเองก่อนว่า รักชอบและสนใจสิ่งไหนอย่าตามกระแส และจะต้องหาและศึกษาข้อมูลในการทำธุรกิจอย่างละเอียด และจะต้องทดลองลงมือทำดูว่าจะสามารถทำได้แค่ไหน” อารีย์กล่าว

ต่อด้วยกิจกรรมเมนูฮิตสาธิตอาหารเด็ด “สลัดปลาแซลมอนราดชีสซอสบนโทสต์” กับเชฟประชัน วงศ์อุทัยพันธุ์ และปิดท้ายด้วยเพลินเพลงดังกับ Bb Street Band

นายชาญณรงค์ บุปผาแดง อายุ 26 ปี พนักงานบริษัทเอกชน กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ได้เข้าร่วมงานมหกรรมอาหารจานเด็ดในครั้งนี้ เพราะคนที่มาร่วมงานจะมากินจริงๆ เพราะมีอาหารที่หลากหลายให้เลือกสรรมากมาย โดยส่วนตัวชอบกินอาหารอีสาน เพราะง่ายกินมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว พอมางานนี้แล้วได้เจออาหารแปลกแล้วได้ลองรู้สึกอร่อย และอยากหากินอีก ซึ่งน่าสนใจมากๆ อยากให้จัดงานแบบนี้ขึ้นทุกปี และอยากให้ขยายพื้นที่และเพิ่มวันในการจัดงาน และเพิ่มพื้นที่ในการจอดรถให้มากขึ้น เพราะเป็นงานมหกรรมอาหารที่รวบรวมอาหารได้มากที่สุดในประเทศนี้

น.ส.หทัยชนก ตั้งสุขสันต์ อายุ 26 ปี พนักงานบริษัทเอกชน กล่าวว่า ดีใจที่มีงานมหกรรมอาหารจานเด็ดที่รวบรวมร้านได้มากที่สุดทั่วประเทศ ซึ่งทราบข่าวงานมหกรรมอาหารมาจากเฟซบุ๊กเพจข่าวสด สิ่งที่ประทับใจในการจัดงานครั้งนี้ คือ ได้ชิมและช้อปปิ้งอาหารที่หลากหลาย และได้ชิมอาหารที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน และอยากให้เพิ่มขยายพื้นที่ให้มากขึ้นและเพิ่มวันในการจัดงาน เพราะมีอาหารที่อยากกินแต่ต้องรอคิวนาน อยากกินอาหารทุกร้านจริงๆ เพราะน่ากินไปหมด

นายบัญชา ฉันทดิลก ผู้จัดการใหญ่กิจกรรมการตลาด บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า 4 วันที่ผ่านมามีผลตอบรับที่ดีมาก ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพราะมีอาหารที่แปลกใหม่ แปลกตา เป็นงานที่เปิดโลกทรรศน์ของโลกอาหารแก่ผู้คน และในอนาคตอยากจะให้ทำเป็นซิกเนเจอร์ จัดงานเป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีถัดไปเชื่อว่าจะมีความสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการรอคิวอาหาร เนื่องจากหลายร้านมีคนนิยมมีคนรอเข้าคิวเป็นจำนวนมาก

“ในปีต่อไปเชื่อว่าจะมีประสบการณ์มากขึ้น และทุกฝ่ายจะปรับปรุงเพื่อให้ประชาชนที่มาร่วมงานมีความสะดวกมากที่สุด และขอขอบคุณทางข่าวสด และสตาร์ฟวิ่งไทม์ เป็นอย่างมากที่มาจัดงานที่นี่ เชื่อว่าประชาชนทุกคนที่มาร่วมงานนั้นมีความสุขและอยากให้จัดงานขึ้นอีกในครั้งต่อไป” นายบัญชา กล่าว

ด้านไมเคิล-นายเกษมศักดิ์ ศิริรักษ์ เจ้าของเพจ “สตาร์ฟวิ่งไทม์” กล่าวว่า ภาพรวมของการจัดงานในครั้งนี้พบว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และประชาชนที่เข้าร่วมงานเกินคาดกว่าที่เราตั้งเป้าหมายไว้ และคาดว่าในปีถัดไปจะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นบทเรียนในการเรียนรู้เพื่อในครั้งหน้าจะมีการจัดอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปีอย่างแน่นอน ซึ่งคาดว่าในทุกปีจะมีการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ และเชื่อว่าประชาชนจะมาได้เยอะขึ้นกว่านี้ได้อีก และจะมีร้านค้าร้านเด็ดมากขึ้นในทุกปีอย่างแน่นอน

“ในอนาคตทางสตาร์ฟวิ่งไทม์และข่าวสด จะมีความร่วมมือในการจัดงานทุกปีอย่างแน่นอน และคาดว่าจะมีงานมหกรรมจานเด็ดในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งจะเพิ่มร้านค้าร้านอาหารร้านเด็ดขึ้นในแต่ละปี และจะมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งสำหรับผู้ที่พลาดงานในปีนี้ขอให้อดใจรอในปีหน้ารับรองจัดอย่างแน่นอน” นายเกษมศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ นายสุรพล พิทยาสกุล ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมพิเศษ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเกินที่คาดหวังไว้ และมียอดประชาชนเข้าร่วมงานเฉลี่ยวันละ 2-3 หมื่นคน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ติดตามและทราบข่าวการจัดงานผ่านทางเพจสตาร์ฟวิ่งไทม์และเพจข่าวสด และพันธมิตรต่างๆ ซึ่งประชาชนวัยรุ่นและกลุ่มคนทั่วไป ได้ร่วมแชร์สื่อโซเชียลอย่างกว้างขวาง

“การจัดงานในครั้งนี้นับว่าสุดยอดประสบความสำเร็จ นับเป็นปรากฎการณ์เป็นการจัดงานมหกรรมอาหารครั้งแรก และเป็นงานเดียวของประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จที่มีคนมากมายขนาดนี้ ถือได้ว่าเป็นวาระการกินแห่งชาติ และในอนาคตจะมีการจัดงานมหกรรมจานเด็ดทุกปีอย่างแน่นอน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกพอใจในการจัดงานมหกรรมอาหาร ที่มีความหลากหลายมากมายขนาดนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารที่อินเทรนด์และอยู่ในกระแสสื่อโซเชียล ซึ่งตามปกติร้านเหล่านี้จะไม่มีหน้าร้าน ประชาชนไม่ได้สามารถที่จะเดินไปซื้อกินได้ทั่วไป มางานนี้งานเดียวสามารถหากินได้ทุกอย่าง ทำให้เกิดกระแสร่วมแชร์สื่อโซเชียลกันมากมาย” นายสุรพล กล่าว