เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 20 ก.พ. ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีการบังคับกฎหมายกับวัดพระธรรมกาย เพราะตอนนี้ทางพระลูกวัดไม่ให้ความร่วมมือ ว่า เราต้องชี้แจงทำความเข้าใจ เพราะทางศาลมีหมายหมายออกมาแล้วทางเจ้าหน้าที่เป็นต้องดำเนินการ ซึ่งตนได้บอกมาแล้วว่าเจ้าหน้าที่รัฐต้องเข้าไปได้ทุกที่ภายในวัด โดยขอย้ำว่าไม่ได้เข้าไปรังแกใคร
ดังนั้น อยากให้ลูกศิษย์ และพระลูกวัดต้องเข้าใจด้วยในการบังคับใช้กฎหมาย ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไปตัวเปล่า โดยที่ไม่พกพาอาวุธ ไม่มีกระบอง และโล่แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามตนได้กำชับไปยังนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม ว่าต้องไปสร้างความเข้าใจกับพระในวัด รวมทั้งลูกศิษย์ต้องมีความเข้าใจ ซึ่งขณะนี้ที่สามารถเข้าได้ทั้งหมดแล้วมีเพียงประตู 5 ประตู 6 ที่ยังติดค้างอยู่
“สำหรับการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ กับพระ และลูกศิษย์วัดนั้น ผมย้ำว่าไม่มี ซึ่งคนจะเข้าคนจะก็ต้องมีการผลักกันไปนิดหน่อย เป็นธรรมดา ไม่ได้ตีกันจนหัวล้างข้างแตก ขณะเดียวกันกรณีเครือข่ายวัดธรรมกายทั่วโลก ออกมาเรียกร้องว่าอย่าทำร้ายพระ และอย่าเข้าไปในวัดนั้น ผมคิดว่าก็เห็นชัดเจนว่า ทำหรือไม่ เราไม่ได้ทำอะไรรุนแรง แล้วตอบได้ไหมว่าพระธัมมชโยอยู่ที่ไหน ซึ่งเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ตรวจค้น แม้ว่าทางวัดจะออกมาประกาศว่าพระธัมมชโยไม่อยู่ในวัด ก็ไม่เป็นไร ขอเราดูหน่อยได้ไหมเท่านั้นเอง จะเสียหายตรงไหน” พล.อ.ประวิตร กล่าวและว่า ทั้งนี้วัดพระธรรมกาย อยู่ภายใต้กำกับของมหาเถรสมาคม ไม่ได้อยู่อย่างเอกเทศ ดังนั้นรัฐบาลต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่เช่นนั้นอาจผิดตาม ม.157 ฐานปล่อยปละละเลย
เมื่อถามว่า จะมีมาตรการป้องกันการแทรกซึมจะกลุ่ม หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าว ขณะนี้ดำเนินการอยู่แล้ว โดยใช้กำลังตำรวจและทหารป้องกันไม่ให้คนภายนอกเข้าไปข้างในวัด ส่วนพื้นที่ในวัดมีความอันตรายหรือไม่ ซึ่งเท่าที่ตรวจดูยังไม่เจอ และคิดว่าไม่อันตราย เราเพียงไปดูทุกที่ว่าพวกที่หมายจับอยู่หรือไม่ ถ้าไม่อยู่ก็จบ
เมื่อถามถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกหมายเรียกพระ 14 รูปมารายงานตัว ถ้าไม่มาจะดำเนินการอย่างไร รองนายกฯประวิตร กล่าวว่า ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต้องทำตามขั้นตอน และทำตามกระบวนการ หากไม่มารายงานตัว 2 ครั้งก็ออกหมายจับตามกฎหมาย
