จับแล้ว แก๊งปล้น หนุ่มลอดช่อง 5 คนร้ายติดจีพีเอสตาม ฉุนแทงบอลถูกไม่ยอมจ่าย
หนุ่มลอดช่อง / เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ ลานด้านหน้า สน.ห้วยขวาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. รอง ผอ.ศปอส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น.
พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.บก.สส.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.มนต์ชัย ศรีประเสริฐ รองผบก.น.1 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รองผบก.น.1 พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง
พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. และฝ่ายสืบสวนสน.ห้วยขวาง ร่วมกันแถลง ผลการจับกุมตัว นายศิรสิทธิ์หรือแม็ก สว่างอำไพ อายุ 32 ปี นายอนุสรณ์ หรือเบน หมื่นสี อายุ 36 ปี นายนันต์ชัย หรือนุ๊ก เกตุอ่วม อายุ 24 ปี นายกิตติศักดิ์ สายวิเศษ อายุ 24 ปี และนายอรรถชัย หรือรอน ติเยาว์ อายุ 24 ปี
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 325 , 326 , 327 , 328 และ 329/2562 ลง 25 ก.พ. 2562 ข้อหา ปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้พาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร,
ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใด เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าได้ และร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ประโยชน์ในการชำระทรัพย์ค่าสินค้า หรือให้เบิกถอนเงินสดของผู้อื่นโดยมิชอบ
พร้อมของกลางไม้เบสบอล 1 ท่อน ไม้คมแฝก 1 ท่อน กุณแจมือ 3 อัน วิทยุสื่อสาร 2 เครื่อง สนับมือ 1 อัน ถุงมือผ้าสีดำ 1 คู่ ถุงผ้าสีดำ 1 ใบ ผ้าเทปสีดำ 1 ม้วน จีพีเอส 1 เครื่อง รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สีดำ หมายเลข ทะเบียน ฎง 9052 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้ก่อเหตุ และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน ขล 8419 นครราชสีมา ของผู้เสียหาย
พ.ต.อ.นครินทร์ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมาผู้เสียหายชายชาวสิงคโปร์ เดินทางแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสน.ห้วยขวาง ว่าเมื่อเวลาประมาณ 01.00 ของ วันที่ 14 ก.พ. ขณะที่ผู้เสียหายกำลังจะขึ้นรถยนต์ของตนเอง ที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านห้วยขวาง
ได้ถูกชายชาวไทยจำนวน 5 คน ใช้กำลังบังคับให้ขึ้นรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สีดำ และพาผู้เสียหายเดินทางไปเอาทรัพย์สินที่ห้องพักผู้เสียหายที่อยู่ใกล้กับแอร์พอร์ตลิงก์ มักกะสัน ก่อนจะพาไปยังรีสอร์ตแห่งหนึ่งในจ.ชลบุรี ทำการข่มขู่เอาเงินไปจำนวนทั้งสิ้น 351,150 บาท
ต่อมาเวลาประมาณ 22.00 น. วันเดียวกัน กลุ่มคนร้ายได้พาผู้เสียหายพร้อมรถยนต์ของผู้เสียหาย มาทิ้งไว้บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในจังหวัดชลบุรี ก่อนหลบหนีไป ต่อมาพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบชื่อผู้ก่อเหตุทั้งหมดก่อนขออนุมัติหมายจับจนสามารถติดตามผู้ก่อเหตุมาได้ทั้งหมด จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ ว่าลงมือก่อเหตุอุ้มชาวสิงคโปร์ไปจริง แต่เป็นการทวงหนี้ที่ผู้เสียหายติดอยู่
ด้านนายอนุสรณ์ ให้การอ้างว่า ตนเล่นพนันบอลกับผู้เสียหาย ซึ่งที่ผ่านมาตนทายผลบอลถูกหลายครั้ง แต่ผู้เสียหายกลับไม่จ่ายเป็นเงินกว่า 9 หมื่นบาท ส่วนผู้ที่ร่วมก่อเหตุคนอื่นๆ ก็เป็นลูกค้าที่ถูกผู้เสียหายเบี้ยวไม่จ่ายเงินเช่นกัน
จึงรวมตัวกันเพื่อทวงเงิน โดนก่อนก่อเหตุ 3 วัน ( 11 ก.พ. ) ได้ช่วยกันติดตามผู้เสียหายจนพบ และนำเครื่องจีพีเอสไปแอบติดไว้ที่รถยนต์ของผู้เสียหาย จนกระทั่งวันที่ 14 ก.พ. พบรถผู้เสียหายเข้ามาจอดอยู่ที่ห้าง จึงเดินทางมาอุ้มตัวขึ้นรถไปเพื่อทวงเงินที่ติดพวกตนไว้ ไม่มีการทำร้ายร่างการใดๆ
ในวันก่อเหตุนายศิรสิทธิ์ เป็นคนขับรถปาเจโร ตนเองนั่งข้างคนขับ มีนายกิตติศักดิ์ และนายอรรถชัย นั่งคุมตัวผู้เสียหายที่เบาะหลัง ส่วนนายนันตชัย ขับรถผู้เสียหายตามมา จากนั้นได้ขับพาผู้เสียหายไปเช่าห้องพักที่จ.ชลบุรี โดยให้ผู้เสียหายโทร.หาคนรู้จักเพื่อนำเงินมาคืนพวกตน เมื่อได้เงินมาแล้วก็พาผู้เสียหายไปส่งที่ปั๊มน้ำมันในจ.ชลบุรี ก่อนแยกย้ายกัน
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การดำเนินการสืบสวนสอบสวน ในครั้งนี้เป็นการบูรณาการทุกหน่วยเพื่อติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งเหตุการที่เกิดขึ้นเป็นการก่อเหตุกับชาวต่างชาติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งในเคสนี้ถือว่าเป็นการจับกุมคนร้ายได้ยกแก๊ง
ในส่วนของเคสนี้ที่เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ก.พ. แต่ผู้เสียหายถูกข่มขู่ไม่ให้แจ้งความ ประกอบกับผู้เสียหายกลัวจะได้รับอันตราย จึงตัดสินใจมาแจ้งความในวันที่ 23 ก.พ. เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ฝากถึงพี่น้องประชาชนที่เคยถูกกระทำลักษณะเช่นนี้ ให้รีบเข้ามาแจ้งความเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
