เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายชัยฤทธิ์ ขานฤทธี อายุ 58 ปี และนางมนัสนันท์ ขานฤทธี อายุ 54 ปี เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้กับนายกนกพรหม ขานฤทธี อายุ 29 ปี บุตรชายจำเลยคดีชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส โดยใช้จักรยานยนต์ ทะเบียน ขพล 893 กรุงเทพมหานคร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ส.ค.2551 บริเวณโรงพยาบาลบางนา 1 ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 23 ปี และถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรมมาแล้ว 6 ปี
นายชัยฤทธิ์ กล่าวว่า ต้องการให้รื้อฟื้นคดีใหม่เนื่องจากมั่นใจว่าลูกชายไม่ได้กระทำผิด เพราะกลางวันนายกนกพรหมจะขับมอเตอร์ไซด์รับจ้าง และจะทำหน้าที่ดูแลย่าที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ที่บ้านด้วย ซึ่งช่วงเวลาเกิดเหตุชิงทรัพย์นั้น นายกนกพรหม ได้นอนอยู่กับลูกสาววัย 8 เดือนในบ้าน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปก่อเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ ครอบครัวของตนมั่นใจว่าลูกไม่ใช่ผู้กระทำผิดและทางตำรวจสน.บางนา ก็บอกว่ามีภาพผู้ต้องหาตัวจริงจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ แต่ภายหลังกลับบอกว่ากล้องวงจรปิดเสียและก็พิมพ์ภาพนายกนกพรหม และให้ผู้เสียหายชี้ก่อนจะถูกจำคุกมานาน 6 ปีแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า ตนได้รับทราบข้อมูลจากพ่อและแม่ของจำเลยในคดีนี้ ว่าเหตุที่ลูกต้องตกเป็นแพะในคดีชิงทรัพย์ เนื่องจากนายนิกร หรือ สิงห์ ไหมวงศ์ ที่เป็นผู้ต้องหาตัวจริง ได้ลงมือชิงทรัพย์เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2551 ที่โรงพยาบาลบางนา 1 โดยชิงทรัพย์พนักงานหญิงของโรงพยาบาลดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพลเมืองดี 2 คน เข้ามาช่วยเหลือ จึงถูกนายนิกรแทงบาดเจ็บสาหัส จากนั้นนายนิกรทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้และรีบหลบหนีไป
รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวต่อว่า ทั้งนี้รถจักรยานยนต์ที่นายนิกรหรือคนร้ายใช้ก่อเหตุนั้น ตำรวจตรวจสอบทะเบียนจักรยานยนต์พบว่านายสวัสดิ์ จันทรักษ์ อายุ 55 ปี เป็นผู้ครอบครองรถ ซึ่งไม่ตรงกับที่ผู้เสียหายระบุว่าเป็นคนหนุ่ม ดังนั้น ทางตำรวจจึงหาข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์ ซึ่งในบ้านพบชื่อผู้ชาย 4 คน แต่นายกนกพรหม เป็นผู้ที่มีอายุน้อยสุดในครอบครัว ต่อมาจึงเอารูปนายกนกพรหม ให้ผู้เสียหายชี้และสรุปสำนวนส่งฟ้องก่อนถูกตัดสินจำคุกในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม จะส่งทีมลงพื้นที่ไปสืบหาความจริงที่บ้านของนายสวัสดิ์ ซึ่งผู้ต้องหาตตัวจริงได้ขโมยรถไปก่อเหตุชิงทรัพย์ รวมทั้งที่บ้านพ่อ-แม่ของนายกนกพรหมด้วย ตลอดจนรพ.บางนา 1 ซึ่งเป็นสถานที่คนร้ายลงมือด้วย
