สาวอัมพฤกษ์ เล่านาทีโดนผัวเมาอุ้มมาทิ้งริมถนน เตรียมส่งตัวเข้าสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ (บ้านพระประแดง) ส่วนชายพิการทางสมองส่งตัวฟื้นฟู 2 เดือน
จากกรณี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางมาที่ สน.ดอนเมือง ประสานขอรับตัว น.ส.ปริศนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี มีบ้านพักอยู่ในย่านดอนเมือง มีลักษณะเป็นอัมพฤกษ์ ถูกนายวิชัย (ขอสงวนนามสกุล) สามี ขับรถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า แอสติน่า สีชมพู ทะเบียน ทว 1720 เชียงราย นำมาทิ้งไว้บริเวณซอยเทิดราชัน 19 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง เพื่อไปพักอาศัยชั่วคราวที่มูลนิธิฯ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น วันที่ 6 มี.ค. ที่รพ.ยันฮี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อม น.พ.สุธน พิสูทธินุศาตร์ ผอ.ด้านการแพทย์ รพ.ยันฮี และนพ.ณเรศศักดิ์ เหล่าสงวนเอก แพทย์อายุกรรมระบบประสาท น.ส.วิมลพรรณ กุญแจทอง ตำแหน่ง ผู้ปกครองสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ (บ้านพระประแดง) เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และทีมแพทย์ รพ.ยันฮี ร่วมประชุมชี้แจงการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยจำนวน 2 เคส
โดยเคสแรก เป็นเคสลูกชายพิการทางสมองที่ถูกขังและได้รับการเลี้ยงดูอยู่ภายในกองขยะ ย่านโชคชัย 4 และเคสที่ 2 สาวอัมพฤกษ์หลังที่ถูกสามีขับรถพามาทิ้ง ย่านริมถนนเทิดราชัน
นพ.ณเรศศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของเคสนายนายโต้ง ลูกชายพิการทางสมองที่ถูกขังและได้รับการเลี้ยงดูอยู่ภายในกองขยะ ย่านโชคชัย ตนได้รับดูแลดูป่วยดังกล่าว ขณะนี้มีสุขภาพที่แข็งแรงดี แต่ไม่สามารถสื่อสารได้เนื่องจากสมองพิการ ทั้งนี้ยังช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง ซึ่งในส่วนของสมองนั้นมีอายุเพียง 1-2 ขวบเท่านั้น ซึ่งจะไม่สามารถตอบสนองอะไรได้เยอะมากเท่าที่ควร
ด้านนางปวีณากล่าวว่า วันนี้จะนำตัวนายโต้ง เข้ารับบริการที่สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการพระประแดง เพื่อฟื้นฟูเป็นเวลา 2 เดือน ก่อนที่จะนำมาอยู่กับ ป้าน้อย ผู้เป็นแม่ โดยทางมูลนิธิปวีณาฯจะร่วมกับ สำนักงานเขตลาดพร้าว สน.โชคชัย ศูนย์ช่วยเหลือสังคม (OSCC) ปรับปรุงห้องพักให้นายโต้งอยู่อย่างถูกสุขอนามัย อย่างไรก็ตามขอให้ป้าน้อยให้ความร่วมมือ อนุญาตให้หน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือทำความสะอาดที่อยู่อาศัยให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อรอรับนายโต้งกลับบ้าน
นางปวีณา กล่าวต่อว่า ส่วนในรายที่ 2 เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 มี.ค. หลังจากได้รับการประสานจากสน.ดอนเมือง ว่ามีหญิงพิการถูกสามีนำมาทิ้งที่ย่านดอนเมืองคือน.ส.ปริศนา จึงเดินทางมาที่สน.ดอนเมือง เพื่อให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยการนำตัวไปพักยังที่ทำการมูลนิธิปวีณา ธัญบุรีคลอง 6 จากนั้นจึงประสานกับที่ทางเจ้าหน้าที่พม. ว่าจะขอนำตัวน.ส.ปริศนาเข้ารับการดูแล ยังสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ (บ้านพระประแดง) แต่ทางสถานคุ้มครองมีกฎว่า ผู้ที่จะเข้ารับการดูแลจะต้องไม่เป็นโรคติดต่อ 5 โรค
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
จากนั้นทางมูลนิธิจึงนำตัวน.ส.ปริศนาเข้ารับการตรวจโรคที่โรงพยาบาลยันฮี และให้ทางทีมแพทย์ช่วยตรวจเกี่ยวกับอาการของโรคอัมพฤกษ์ด้วย ผลจากการตรวจน.ส.ปริศนาไม่มีโรคติดต่อร้ายแต่อย่างใด
ในส่วนของการโรคอัมพฤกษ์จะต้องใช้เวลาในการบำบัดฟื้นฟู แต่หลังจากนี้ต้องติดต่อกับสามีและลูกอีก 2 คน เพื่อให้เข้ามาช่วยดูแลน.ส.ปริศนา เนื่องจากทางสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ สามารถดูแลได้เพียง 2 เดือน
จากนั้นต้องเป็นหน้าที่ของญาติที่จะต้องเข้ามาดูแลให้ความช่วยเหลือต่อไป ในส่วนของทางมูลนิธิก็จะให้ความช่วยเหลือกับสามีว่า พอจะหาอาชีพอะไรให้ทำได้บ้าง เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น สามารถดูแลภรรยาได้ เพราะทั้งคู่ไม่มีอาชีพและที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยหลับนอนกันในรถ
ด้าน น.ส.ปริศนา กล่าวว่า มีอาการป่วยมา 3 ปีแล้ว แต่ก่อนเคยมีอาชีพขายของอยู่ในห้าง วันเกิดเหตุสามีไปดื่มเหล้ากลับมาก็โมโหก็ขับรถออกมา ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกโกรธสามีหรือไม่ น.ส.ปริศนา กล่าวว่า ยังโกรธ และยังบอกว่าสามีทำกับตนครั้งนี้เป็นครั้งแรก
