เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 กพ. 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งว่ามีชายปีนขึ้นไปบนเสาวิทยุโรงพยาบาลราชบุรี จึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบบนอาคารตึกฉุกเฉิน ด้านบนมีเสาวิทยุสูงประมาณ 40 เมตร มีชายกำลังปีนขึ้นไปนั่งอยู่บนเสา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เจารจาแต่ไม่เป็นผล และได้ปีนขึ้นไปอีกเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงใช้เบาะลมกางเพื่อป้องกันไว้ก่อน อีกทั้งกรมการทหารช่างได้นำรถกระเช้าสูงมาจอดเพื่อเตรียมขึ้นไปรับ
หลังจากนั้นเจ้าห้าที่ได้สอบถามข้อมูลและติดตามญาติ จนพบนางพนศิกานต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าคนที่ปีนขึ้นไปนั้นคือสามีตน ชื่อนายสุทธิชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เจรจาเพื่อให้นายสุทธิชาติ ใจเย็นๆ พร้อมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำเอาน้ำดื่มขึ้นไปให้ โดยให้ ดต.วิเชียร มณีวิหค ผบ.หมู่งานจราจร ขึ้นไปเพราะเป็นเพื่อนกัน เมื่อ ดต.วิเชียรปีนขึ้นไปเอาน้ำและผ้าเย็นไปให้จนใจเย็นพร้อมทั้งได้พูดคุยกันใช้เวลาประมาณ 15 นาทีจึงยอมลง โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เชือกผูกตัวแล้วค่อยปีนลงมาอย่างปลอดภัย ซึ่งแพทย์ได้นำตัวเข้าไปในห้องพักในตึกฉุกเฉินทันที
ทางด้านนางพนศิกานต์ ได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า สามีตนมีอาการคิดมากและเครียดหนัก หลังจากเกิดเหตุมีปัญหากับคนข้างบ้าน ซึ่งถูกคนข้างบ้านใช้อาวุธปืนยิง และได้มีการแจ้งความดำเนินคดี ต่อมาเรื่องไม่จบก็มีปัญหากันอีก จนล่าสุดคู่กรณีที่มีปัญหาใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง (อ่าน หนุ่มแบงก์เครียดจัด จอดรถหน้าบ้านแฟนสาว ก่อนจ่อขมับยิงตัวดับคาเก๋ง) หลังจากนั้นญาติและเพื่อนๆของผู้ตายได้โพสต์ในเฟสบุ๊ก รวมถึงคนที่ไม่รู้เรื่องก็ช่วยรุมด่าว่าอย่างเสียหาย หาว่าเหตุการณ์ที่คู่กรณียิงตัวตายเกิดจากครอบครัวของเรา แล้วยังโพสต์ด่าไม่ให้คนมาซื้อของร้าน ทำให้สามีตนเกิดความเครียดอย่างหนัก ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าหลังจากลูกไปโรงเรียน สามีตนบอกว่าจะไปหาหมอที่โรงพยาบาล ต่อมามีคนโทรศัพท์มาบอกว่าสามีตนปีนขึ้นไปบนเสาเพื่อจะฆ่าตัวตาย จึงได้รีบมาช่วยเจ้าหน้าที่พูดและลงมาอย่าปลอดภัย
กระแสโซเชียลก่อนที่หนุ่มรายดังกล่าวจะปีนเสา
