เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของปฏิบัติการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายและการติดตามจับกุมตัวพระเทพญาณมหามุนี (พระธัมมชโย) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่า ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร ถ้าตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังทำไม่ได้ ก็ต้องทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเข้าไปได้ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลากี่วัน เป็นสัปดาห์หรือเป็นปี

แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ไม่ใช้ความรุนแรงและไม่ให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด ดำเนินการร่วมกันทั้งหมด โดยไม่ใช้ความรุนแรง แต่จำเป็นต้องทำตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดการยั่วยุเจ้าหน้าที่ รองนายกฯ กล่าวว่า สื่อมวลชนควรช่วยนำเสนอ ไปบอกอีกฝ่ายว่าอย่าให้มีการยั่วยุเจ้าหน้าที่ หรือสร้างความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชน ส่วนกฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย ถ้าไม่ใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็ทำงานต่อไปไม่ได้ แต่ถ้าไม่ใช้กฎหมายแล้วเจ้าหน้าที่ทำงานได้ ก็คงไม่ต้องเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้กฎหมายพิเศษ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่ทบทวนข้อเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 5/2560 เรื่องมาตรการควบคุมพื้นที่เพื่อการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังต้องใช้คำสั่งนี้ต่อไป เพราะเรื่องยังไม่จบ ยังหาตัวพระธัมมชโยไม่ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่ดีเอสไอออกคำสั่งให้พระธัมมชโย พร้อมพระในวัดพระธรรมกาย รวม 14 รูป มารายงานตัว ตอนนี้ต้องเข้าสู่ขั้นตอนการออกหมายจับแล้วหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ คิดว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ทราบว่ามีพระมารายงานตัวบ้างแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจค้นวัดดังกล่าวได้อีกครั้ง ได้มีการรายงานขอปรับเปลี่ยนแผนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “คุณอยากรู้แผนหรือ เจ้าหน้าที่ทำได้ คุณจะรู้ไปทำไม ผมขอถามหน่อย คุณจะไปจับเขาเหรอ แผนเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ชอบถามอยู่เรื่อยว่าเปลี่ยนแผนไหม เรื่องแผนไม่ใช่หน้าที่คุณ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ คุณต้องถามเรื่องความก้าวหน้าว่าทำสำเร็จไหม จะทำอย่างไรต่อไป คุณมาถามแผน แล้วใครจะเอาแผนมากางให้ดู”

เมื่อถามถึงข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจดังกล่าวได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงวันละ 400 บาท แต่ถูกหักเงินเป็นค่าอาหารกล่อง 200 บาท ทำให้เหลือเงินที่ได้รับ 200 บาท และอาหารในข้าวกล่องในแต่ละมื้อมีข้าวและกับข้าวเพียงอย่างเดียว รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ใช่อย่างที่เป็นข่าว คนที่เอาเรื่องกับข้าวตำรวจออกมาพูดคงไม่มีอะไรทำ อย่างไรก็ตาม ตนจะให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งเขาคงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอยู่แล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน