วันที่ 23 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย และศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่ขณะนี้ยังมีปัญหาบานปลายอยู่ว่า วันนี้ไม่อยากให้มีการนำเสนอในเรื่องของความขัดแย้ง เรื่องวัดพระธรรมกายนั้น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่จะต้องดำเนินการไป ขณะนี้มีหลายส่วนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ขอร้องว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเลย ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน ประชาชน และพระก็ต้องให้ความร่วมมือ เพราะถือเป็นการทำงานภายใต้กฎหมาย

ตนไม่ต้องการให้ใช้กฎหมู่มากดดันเจ้าหน้าที่ ไม่เช่นนั้นจะทำงานยาก สุดท้ายจะเกิดการกระทบกระทั่งบาดเจ็บสูญเสีย เพราะฉะนั้นใครที่กำลังเชียร์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขณะนี้อย่าลืมว่า หากมีลูกหลานของตัวเองอยู่ในสถานการณ์และพื้นที่นั้น แล้วจะรู้สึกอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่ พระ หรือประชาชน ที่เชื่อถือศรัทธา หากเกิดบาดเจ็บสูญเสียล้มตายลงไป แล้วจะทำอย่างไร ก็ต้องเสียใจ

“ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับคนที่กระทำความผิด หรือไม่ผิด ก็ต้องออกมาแสดงความบริสุทธิ์ให้ได้ แค่นั้นทุกเรื่องก็จะจบลง ไม่ต้องเสียเวลา พลังงาน หรืองบประมาณ ในส่วนของภาครัฐไม่ทำก็ไม่ได้ ผมจึงอยากขอร้องสื่อมวลชนให้ลดการเสนอข่าวในเรื่องนี้ลงไปบ้าง เพราะถ้าสามารถลดการเสนอลงไปได้ การสร้างแนวร่วม การสร้างมวลชนก็จะลดลง และผมเองก็เป็นที่รักชีวิตของคนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร จะถูกหรือผิดก็ตาม เพราะเขาก็เป็นคนไทย และผมก็รักทุกคน เพียงแต่ว่าต้องรักษากฎหมาย กฎกติกาของบ้านเมือง” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มอบนโยบายในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มอบนโยบายไปแล้วว่าให้ปฏิบัติหน้าที่ และทำทุกอย่างตามกฎหมาย จากเบา ไปหาหนัก ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องไปไตร่ตรอง และใคร่ครวญดู เพราะถ้าจะปฏิบัติแบบเบาไปทั้งหมดก็จะเกิดการยื้อเวลายาวนานไปหรือเปล่า แต่ถ้าหนักเกินไปจะเกิดความวุ่นวายกันหรือเปล่า ตรงนี้ต้องไปตัดสินใจเพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ต้องบังคับใช้กฎหมายก็เหลือแต่พวกเราที่จะต้องช่วยกันทำให้สังคมสงบให้ได้ ให้ผู้กระทำความผิดออกมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเรื่องก็จบ

อย่าไปสร้างหรือนำเสนอว่าวันนี้เจ้าหน้าที่ถอยหลังอีกแล้ว เสนอข่าวเช่นนี้เจ้าหน้าที่ก็อึดอัดเพราะในความเป็นจริงไม่มีใครอยากทำถ้าไม่ใช่กฎหมาย เพราะเจ้าหน้าที่เองก็มีครอบครัว มีลูกเมีย เช่นกัน ไม่ต้องการให้ใครมาด่าหรือต่อว่า ซึ่งส่วนใหญ่ก็นับถือศาสนาพุทธ สังคมต้องไปดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นถูกต้องหรือไม่ และควรต้องทำอย่างไร

“ไม่ได้หมายความว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าไปทำลายทิ้งทั้งหมด มันไม่ใช่ สมมติว่าถ้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ก็ต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับสถานที่ โดยเฉพาะที่เป็นสถานที่ในการทำบุญนั้น จะต้องไปอย่างไรขณะนี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน เพราะมีกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถ้าไม่ผิดกฎหมายอะไรเลยก็ทำอะไรไม่ได้ มันเป็นเรื่องของบุคคล”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน