เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภ.1) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวพระภิกษุสงฆ์ 6 รูป และบุคคลต้องสงสัยอีก 22 คน ที่บริเวณอาคารบุญรักษา ประตู 4 วัดพระธรรมกาย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น เบื้องต้นตนได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจพบวิทยุสื่อสารในตัวพระภิกษุสงฆ์ และอยู่ในพื้นที่ควบคุมพิเศษ จึงจำเป็นต้องควบคุมตัวมาสอบปากคำเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพระภิกษุสงฆ์ดังกล่าว ไม่ใช่พระสงฆ์ของวัดพระธรรมกาย

อ่านข่าว “ตร.” คุมตัว “พระสงฆ์-บุคคลต้องสงสัย” 26 คน ขัดขวางการปฏิบัติงานสอบปากคำ

ผบช.ภ.1 กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์การกระทบกระทั่งกันที่บริเวณประตู 1 ของวัดพระธรรมกาย ที่เจ้าหน้าที่พยายามเข้าขอคืนพื้นที่จากกลุ่มพระสงฆ์และมวลชนของวัดนั้น ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บตามที่ทางวัดกล่าวอ้าง ส่วนกรณีที่ให้เจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติการวางตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้มวลชนของวัดหรือผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกบริเวณวัดพระธรรมกายนั้น อยู่ระหว่างหารือว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มตู้และจุดวางเพิ่มเติมหรือไม่

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบปากคำพระสงฆ์ 6 รูป และลูกศิษย์ วัดพระธรรมกาย 22 คน เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เชิญมาสอบปากคำที่บก.ตชด.ภ.1 เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ภายหลังการพูดคุยทำความเข้าใจ เจ้าหน้าที่ได้จัดรถตู้ 7 คัน ส่งตัวออกนอกพื้นที่ โดยมวลชนรับปากว่าช่วงที่ดำเนินการตามมาตรา 44 เพื่อนำตัวพระธัมมชโย ผู้ต้องหาตามหมายจับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็จะไม่กลับเข้ามาในพื้นที่

ส่วนพระ 6 รูป จากการตรวจสอบใบสุทธิพบว่าเป็นพระของวัดพระธรรมกาย 3 รูป และพระจากต่างจังหวัด 3 รูป ซึ่งเจ้าหน้าที่จากสำนักพระพุทธศาสนา (พศ.) ได้มาร่วมพูดคุยและขอความร่วมมือให้หยุดกระทำการที่ส่อไปในทางขัดขวางการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ต้องการดำเนินคดีกับพระสงฆ์หรือบุคคลอื่นๆ เพราะไม่ใช่เป้าหมายตามหมายจับ จากนั้น จึงนิมนต์พระ 3 รูปของวัดพระธรรมกายกลับวัด ส่วนอีก 3 รูปนิมนต์กลับไปจำวัดที่วัดต้นสังกัด โดยมีวัดที่จ.อุตรดิตถ์ และกาญจนบุรี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน