เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ก.พ. ที่ตลาดกลางคลองหลวง ต.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายจรูญศักดิ์ สิงหเดช ปลัดจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยนายศิริชัย ไตรสารศรี นายอำเภอคลองหลวง พ.ต.อ.เขมพัทธ์ โพทิพิทักษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.จีรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ สว.สส.สภ.คลองหลวง และ สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้าเจรจากับพระสงฆ์และมวลชนวัดพระธรรม ที่มาชุมนุมภายในตลาดกลางคลองหลวง
โดยในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เคลื่อนรถขยายเสียง เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ให้แก่มวลชนที่มาร่วมตัวที่ตลาดแห่งนี้ ปรากฎว่าทางมวลชนวัดพระธรรมกาย ได้ผลักดันรถขยายเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจจนรถขายเสียงต้องถอยร่นออกไปยังถนนคลองหลวง
ด้านนายศิริชัย ไตรสารศรี นายอำเภอคลองหลวง เปิดเผยว่า ที่มาในวันนี้ไม่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่จะมาใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด เพียงแต่มาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและพระสงฆ์ที่มาอาศัยภายในตลาดกลางคลองหลวงว่า ขอให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่ภายในนี้ให้กลับภูมิลำเนาเดิมของตนเองเนื่องจากทางเจ้าของตลาดไม่ยินยอมให้ใช้สถานที่แห่งนี้ และเจ้าของตลาดได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ได้อนุญาตให้ใช้สถานที่แห่งนี้เพื่อการชุมนุมดังกล่าวที่ สภ.คลองหลวง แล้ว
ในส่วนของพระสงฆ์ก็ให้กลับไปประจำวัด ของทางต้นสังกัดของพระสงฆ์เอง อีกทั้งอยากจะขอร้องผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ขอให้ออกไปโดยเร็ว เพราะผิดกฎหมายที่ คสช.ได้ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมตามมาตรา 44 เอาไว้ก่อนหน้าที่จะมีการมาชุมนุม
ต่อมาเวลา 13.40 น. ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภ.1) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ตลาดกลางคลองหลวง เนื่องจากเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 5/2560 และทางเจ้าของตลาดได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่าได้รับการเดือดร้อน โดยเบื้องต้นชุดปฏิบัติการพิเศษจะเน้นการเจรจาเพื่อขอคืนพื้นที่ก่อน
หากพระภิกษุสงษ์และมวลชนของวัดพระธรรมกายยังไม่ยอมออกจากพื้นที่ดังกล่าว ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะต้องมีการพิจารณาถึงขั้นตอนการดำเนินการขั้นต่อไป สำหรับกองกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะนี้ ยังคงใช้เท่าเดิมคือ 18 กองร้อย ส่วนจะมีการเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น ต้องขอดูสถานการณ์อีกครั้ง
