ที่แท้ เสี่ยเต้นท์รถดัง ขับปอร์เช่หรู ชน2ศพ-สาวท้อง ก่อนชน ก๊งเหล้า ผับปิด-ซิ่งรถโชว์ ตร.ยังไม่แจ้งข้อหา น้องคนเจ็บ แฉ เจอขู่ผ่านร้อยเวร พูดเรื่องเมา จะไม่ได้สักบาท สลด!
จากกรณี รถยนต์สปอร์ตหรู ปอร์เช่ รุ่นเคย์แมน เอส สีขาว หมายเลขททะเบียน 6 กญ 9579 กรุงเทพฯ ราคาเกือบ 10 ล้านบาท ชน รถจยย. ฮอนด้า เวฟ 125 สีเขียวอ่อน หมายเลขทะเบียน ฬกอ 618 กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้ น.ส.กิตติยา หรือโอ๋ เที่ยงธรรม อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกตัดแขนและขา และลูกในท้อง ซึ่งมีอายุนครรภ์ 3 เดือน เสียชีวิต ส่วน น.ส.มีนารัตน์ หรือไตเติ้ล ฉิมน้อย อายุ 22 ปี เพื่อนสาว เสียชีวิตคาที่
โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา บริเวณปากซอยพุทธมณฑลสาย 3 ซอย 5 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ซึ่งต่อมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ แทงค์น้ำ มาเฟิย ได้นำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ลงโซเชียล เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตตามที่เสนอไปแล้นั้น
- อ่าน : หนุ่มร้อง คนรวยไม่ผิด ซิ่งปอร์เช่ ชน2ศพ หนี สาวท้องปางตาย-ขาขาด ทารกดับ ตร.เฉย
- อ่าน : แฉ เก๋งปอร์เช่ 2ศพ ส่งเมียเจรจา จ่าย 5หมื่น เหยื่อโคม่า พิการ เสียคนรัก-ลูกในท้อง
- อ่าน : นาที ปอร์เช่หรู ชนสนั่น 2ศพ สาวท้อง ขาขาด ตัวกระเด็น! ลอยคว้างกลางอากาศ ดิ้นทุรน
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 16 มี.ค. ที่สน.หนองค้างพลู น.ส.ณัฐธินี เลื่อนรุ่ง อายุ 29 ปี พร้อมด้วยญาติของ น.ส.กิตติยา ผู้ประสบเหตุ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ณพสกล ทองแสง รองสว.(สอบสวน) สน.หนองค้างพลู เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว โดย น.ส.ณัฐธินี เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ น.ส.กิตติยา ซึ่งเป็นน้องสาวตน ได้ขี่รถจยย. ออกจากบ้านพัก ภายในซอยเพชรเกษม 114 เพื่อไปรับน.ส.มีนารัตน์ เพื่อนสนิท ซึ่งทำงานเป็นพีอาร์อยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านถนนพุทธมณฑลสาย 3
จากนั้นทั้งคู่ได้ขี่และซ้อนท้ายรถจยย.ย้อนศรบนบาทวิถี มุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี เพื่อเข้าซอยลัดไปส่งน.ส.มีนารัตน์ ยังบ้านพักภายในซอยเพชรเกษม 110 โดยระหว่างที่ผ่านหน้าร้านรับซื้อของเก่า ไปได้ไม่ไกล จู่ๆ รถสปอร์ตหรู ซึ่งขับมาด้วยความเร็วสูงเหินข้ามสะพานข้ามคลองย่อย แล้วเกิดเสียหลักขึ้นบนบาทวิถีมาชนรถของน้องสาวตนเข้าอย่างจัง
จนร่างของ น.ส.มีนารัตน์ กระเด็นข้ามรั้วเข้าไปอยู่ในร้านขายของเก่า ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร เป็นเหตุให้ขาซ้ายขาด แขนหัก ศีรษะแตก เสียชีวิตคาที่ ส่วนน.ส.กิตติยา ร่างกระเด็น ห่างออกไปอีกทางซึ่งมีระยะทางเท่ากัน เป็นเหตุให้ได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส สภาพขาซ้ายขาด ม้ามฉีก ตับฉีก สะโพกแตก เลือดออกในช่องท้อง แขนด้านซ้ายรอตัด
Advertisement
ส่วนบุตรในท้องอายุครรภ์ 3 เดือน เสียชีวิตทันทีต้องรอแพทย์ผ่าตัดเอาศพออกมา ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู รพ.ศิราราช นอกจากนี้รถสปอร์ตหรูยังเสียหลักไปชนรถซาเล้งและรถตู้จนได้รับความเสียหาย
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
น.ส.ณัฐธินี กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุ มีพลเมืองดีได้ถ่ายคลิปวีดีโอและไลฟ์สดเพื่อบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ ซึ่งเป็นภาพที่คนขับรถคันก่อเหตุคลานออกมาจากรถในสภาพมึนเมา จากนั้นมีรถยนต์ โยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ไม่ทราบเลขทะเบียน ขับมารับขึ้นรถไปจอดดูเหตุการณ์อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วพากันหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้บริเวณจุดเกิดเหตุมีพยานหลายรายพบว่า คนขับรถสปอร์ตหรูนั่งดื่มสุราอยู่กับเพื่อนที่สถานบันเทิงแหงหนึ่ง ห่างจากจุดเกิดเหตุไปไม่ไกล หลังจากผับปิดได้ขับรถออกมาวิ่งโชว์ด้วยความเร็วสูงประมาณ 3 รอบ โดยก่อนช่วงจุดเกิดเหตุเป็นคอสะพานข้ามคลองที่รถต้องระวัง เนื่องจากหากไม่ชินทางรถจะเหินเสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
ซึ่งหลังเกิดเรื่องตนพร้อมญาติไปขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากสถานบันเทิงดังกล่าว แต่กลับได้รับคำตอบว่าลบภาพออกไปแล้ว แต่ถือว่ายังโชคดีที่ยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุมาอีกหลายตัว นอกจากนี้ตนเกรงว่าคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากคู่กรณีเป็นคนมีฐานะจึงใช้ช่องทางผ่านโลกสังคมออนไลน์ช่วยกันพิจารณา
หลังจากนั้นตนทราบมาว่า ภรรยาของผู้ก่อเหตุได้ติดต่อผ่านมายังพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี พร้อมทั้งระบุว่าจะช่วยเงินค่าทำศพ 5 หมื่นบาท แต่อย่าพูดถึงเรื่องเมาไม่เช่นนั้นจะไม่ได้เงินเลยสักบาท ส่วนน้องสาวตนไม่ได้พูดถึง ตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง ทำไมเห็นคุณค่าของคนเพียงแค่เงิน 5 หมื่นบาท อีกทั้งน.ส.มีนารัตน์ ยังมีบุตรชายวัย 2 ขวบอีกด้วย
ขณะที่ ร.ต.อ.ณพสกล กล่าวว่า ขณะนี้ทราบชื่อเจ้าของและผู้ครอบครองรถคันก่อเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้วคือ นายสมเกียรติ ภักดีนอก อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 595/117 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เป็นเจ้าของเต้นท์ขายรถ อีกทั้งได้รับบาดเจ็บขาหักทั้ง 2 ข้าง นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พญาไท 3
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการพักฟื้นรักษาตัวและยังไม่พร้อมให้การกับทางเจ้าหน้าที่ โดยระหว่างนี้ต้องรอผลตรวจเลือดจากทางรพ.ว่ามีระดับปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่
ทั้งนี้ทางภรรยาผู้ก่อเหตุได้ติดต่อมาแล้วพร้อมทั้งให้การช่วยเหลือค่าทำศพผู้เสียชีวิต 5 หมื่นบาท พร้อมพวงหรีด ส่วนค่าเสียหายอย่างอื่นรอให้ทางฝ่ายชายออกจากโรงพยาบาลเสียก่อน จากนั้นจะมาตกลงกับทางญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บต่อไป
