เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 27 ก.พ. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่วัดธรรมกายว่า รายละเอียดเรื่องนี้ อยากให้ไปถามนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม เพราะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง อย่าให้ตนตอบเรื่องนี้เลย เพราะไม่ทราบรายละเอียด ถ้าตอบไปรายละเอียดจะไม่ตรงกัน

เมื่อถามถึงกรณี นายอนวัช ธนเจริญณัฐ ฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยกเลิกมาตรา44 จะรับผิดชอบอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องถามว่าเป็นคนของใคร ส่วนความรับผิดชอบนั้น ทางนายสุวพันธ์ คงจะชี้แจง ส่วนรายละเอียดการใช้มาตรา44 นั้น ทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ได้ชี้แจงรายละเอียดครบถ้วนแล้ว

เมื่อถามย้ำว่า การเสียชีวิตของนายอนวัชจะเป็นกรณีสุดท้ายหรือไม่ เพื่อไม่ให้มีการเลียนแบบ รองนายกฯประวิตร กล่าวว่า ตนไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ ขอให้ไปถามคนในพื้นที่ หากตนวิพากษ์วิจารณ์ไปเกรงว่าจะไม่ถูก เพราะเรื่องนี้จะถูกหรือผิด ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้ลงไปในรายละเอียด ขอให้เป็นหน้าที่นายสุวพันธุ์ ที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงเป็นคนชี้แจง เพราะท่านจะตอบอะไรได้ดีกว่าตน หากตนตอบไปก็จะไปตรงกัน แล้วจะมาหาว่าตนให้ข้อมูลมั่วอีก

เมื่อถามอีกว่า ตอนนี้มีมวลชนมาเตรียมมาสบทบมากขึ้น รวมถึงกระแสข่าวมือที่ 3 ฝ่ายความมั่นคง มีความเป็นห่วงอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ในพื้นที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว โดยเฉพาะการป้องกันมือที่ 3 ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ โดยทางเรามีการตรวจค้นบุคคลที่จะเข้ามาร่วมชุมนุม ซึ่งทาง พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ1) ได้รายงานรายละเอียดให้ตนทราบมาตลอด

เมื่อถามถึงกรณีเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่ง ได้จับกุมพล.ต.ต.รุ่งโรจน์ เภกะนันทร์ อดีต ผบก.จว.อยุธยา อายุ 73 ปี พกอาวุธเข้าพื้นที่วัดธรรมกาย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเมื่อเช้าที่ผ่านมา โดยทราบว่ามีอาวุธ ซึ่งเรื่องนี้ต้องดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย ส่วนที่เกรงว่าจะกลายเป็นประเด็นการเมือง ตนคิดว่าไม่มีอะไร เพราะมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ

“ผมไม่ได้ปล่อยให้มวลชนเข้ามารวมตัวกันมากมาย ซึ่งจะมีคนสนับสนุนก็ต้องว่ากันไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องพยายามพูดคุยทำความเข้าใจกันทุกอย่าง ส่วนจะเดทไลท์เมื่อไหร่นั้น อยากให้ไปถามนายสุวพันธุ์แทน ผมไม่ทราบ รู้เพียงว่าทุกอย่างจะต้องคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และทุกฝ่ายต้องยอมรับ ซึ่งทุกคนทราบดีว่าเจ้าหน้าที่พยายามไม่ให้เกิดการปะทะกัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนบาดเจ็บล้มตาย ขณะเดียวกรณีที่พระสงฆ์ประเทศเมียนมาออกมาเคลื่อนไหวนั้น ผมคิดว่าไม่เกี่ยว เพราะเป็นคนละประเทศกัน แค่เรื่องในประเทศ ผมก็ตอบตอบเยอะอยู่แล้ว” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน