เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 ก.พ. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการปฏิบัติการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร คดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ซึ่งได้ดำเนินการมา 12 วันแล้ว ว่า ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการก็มีความคืบหน้าบ้างแล้ว แต่ขณะนี้ดีเอสไอยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่จนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ เพราะยังไม่สามารถตอบคำถามรัฐบาลได้ทุกอย่าง ซึ่งเป็นความจำเป็นที่ดีเอสไอกำลังทำตามกฎหมาย ดังนั้น การที่เขายังไม่ได้ทำหน้าที่จนสมบูรณ์ก็จำเป็นต้องทำหน้าที่ต่อไป

นายสุวพันธุ์ กล่าวต่อว่า ตนทราบมาว่ากำลังจะมีการพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติการในสัปดาห์นี้ อยู่แต่จะปรับอย่างไรนั้น ในคำสั่งได้ให้อำนาจอธิบดีดีเอสไอไว้ให้สามารถทำเต็มที่ในเรื่องที่จะทำตามมาตรการต่างๆ ที่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้อำนาจไว้ โดยกำลังหารือกับทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทั้งนี้ ในคำสั่งหัวหน้า คสช. ชัดเจนว่าอธิบดีดีเอสไอ เป็นผู้บัญชาการสถานการณ์นั้นอยู่ และปัจจุบันก็ยังเป็นอธิบดีดีเอสไออยู่ ซึ่งตนยังไม่คิดจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวอธิบดีดีเอสไอแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้พระชั้นผู้ใหญ่ได้มีบทบาทเข้ามาช่วยคลี่คลายสถานการณ์อย่างไรบ้าง นายสุวพันธ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบมาเจ้าคณะหนกลาง และผู้แทนของมหาเถรสมาคม ก็ไม่ได้อยู่เฉย ซึ่งอย่างน้อยที่สุด คือ 1.เจ้าคณะหนกลางได้มอบให้เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เข้ามาเป็นผู้แทนในการทำงานร่วมกับรัฐบาล และ 2.เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ได้แต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอ และพระวินยาธิการ ให้เข้ามาทำงานในพื้นที่ปฏิบัติการวันละ 9 รูป เพื่อดูแลพระสงฆ์และส่วนที่เกี่ยวข้องกับคณะสงฆ์

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีคณะสงฆ์มาชุมนุมรวมตัวกันอยู่ในพื้นที่ ตนจึงอยากขอให้พระสงฆ์ที่ไม่ได้อยู่ในวัดพระธรรมกายก็อยากให้กลับวัดของท่าน ซึ่งอยากให้เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้ช่วยดำเนินการในเรื่องนี้ โดยคาดว่าจะอยู่ในแผนที่จะได้มีการพูดคุยกันในวันที่ 27 ก.พ.นี้ด้วย

เมื่อถามถึงการปรับเปลี่ยนตัวผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จะทำให้แก้ปัญหาได้คล่องตัวมากขึ้นใช่หรือไม่ นายสุวพันธ์ กล่าวว่า คิดว่าการเปลี่ยนตัวเป็นเรื่องของสำนักนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนพิจารณา ซึ่งในการทำงานผอ.พศ.คนใหม่ ก็ต้องทำงานร่วมกับคณะสงฆ์ด้วย ดีเอสไอและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) รวมทั้งคสช.ที่อยู่ในพื้นที่ด้วย ก็หวังว่าทุกฝ่ายจะทำหน้าที่รับผิดชอบของตัวเองให้เต็มกำลังความสามารถเพื่อให้เกิดข้อยุติได้

เมื่อถามด้วยว่า กรณีที่พระราชวิจิตรปฏิภาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ฯ กรุงเทพฯ ได้แสดงความเห็นว่าการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ไม่ทันกับที่ทางวัดพระธรรมกาย เผยแพร่ข้อมูลตอบโต้ทางโซเชียลมีเดีย นายสุวพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกเรื่องทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ปฏิบัติกำลังจะปรับแผน รวมทั้งการทำความเข้าใจ ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลยึดเอาข้อเท็จจริงเป็นหลัก และทุกข้อมูลที่ออกไปจากรัฐบาลเป็นความจริงที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หวังว่าทุกฝ่ายจะช่วยกันเพื่อให้เราไปถึงข้อยุติที่เป็นประโยชน์กับสังคม

รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่นายอนวัช ธนเจริญณัฐ ปีนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ก่อนจะตัดสินใจอัตวินิบาตกรรมนั้น เรื่องนี้ทุกฝ่ายไม่ต้องการให้เกิดขึ้นและได้มีการสื่อสารกันแล้ว ทั้งนี้อยากให้ทางวัดพระธรรมกายได้ปรับท่าทีด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน