เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 ก.พ. ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.พารินท จันทร์เลิศ พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รอง ผกก.พ.ต.ท.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.กก.5 บก.ป. แถลงจับกุมนายอาทิตย์ตยา แสนยาธรรมโฆษ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาคดี “ฉ้อโกง” โดยจับกุมตัวได้ที่สำนักทรงไม่มีชื่อ เลขที่ 134 ม.6 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

พล.ต.ต.สุทิน เปิดเผยว่า มีกลุ่มผู้เสียหายหลายราย เข้ามาร้องทุกข์ว่าถูกนายอาทิตย์ตยา ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง อ้างตัวเป็นร่างทรง “เจ้าหญิงเมืองแก้ว” ชักชวนเหยื่อซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีฐานะและพักอยู่ในต่างประเทศ เพื่อให้เข้ามาปฏิบัติธรรม โดยเริ่มจาก การสอนธรรมะผ่านทางกลุ่มไลน์หลังจากผู้เสียหายหลงเชื่อ ก็จะหลอกให้เดินทางมาปฏิบัติธรรมที่ประเทศไทย

ทั้งนี้ในการสอบสวนผู้เสียหายให้การด้วยว่า ผู้ต้องหาจะสอนธรรมไปในทางที่ผิดคำสอนทางศาสนา บางรายก็ถึงกับให้เลิกกับสามี โดยให้ฟ้องหย่าเพื่อนำเงินมาร่วมทำบุญ โดยจะสอนให้มีการบริจาคเงินเป็นจำนวนมากๆ แม้ว่าเงินนั้นจะได้มาจากการทุจริตก็ตาม นอกจากนี้ ระหว่างมาปฎิบัติธรรมก็ห้ามไม่ให้เหยื่อติดต่อกับญาติพี่น้องด้วย ระหว่างนี้ก็จะมีผู้ร่วมขบวนการคอยเล่าเรื่องราวอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ต่างๆของผู้ต้องหา เพื่อคอยโน้มน้าวชักจูงใจให้กับกลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ

ผบก.ป. กล่าวอีกว่า บางครั้งนายอาทิตย์ตยาก็จะแสดงตัวเป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ เข้าทรงเป็นเจ้าหญิงเมืองแก้ว ดัดเสียงได้ทั้งเสียงผู้หญิง ผู้ชายและเด็ก เพื่อทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ก่อนโน้มน้าวให้ร่วมทำบุญกับร่างทรง ถ้ายิ่งทำบุญมากเท่าไร ก็จะได้บุญกุศลมากและหากทำบุญสูงถึง 18 ล้านบาท กุศลก็จะส่งให้ถึงขั้นบรรลุโสดาบันได้ ซึ่งหากร่วมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดแล้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 60 ล้านบาท ผู้เสียหายบางรายถูกหลอกไปเป็นเงินถึง 49 ล้านบาท

“หลังจากนี้ไป ทางกองปราบฯจะตรวจสอบสำนักทรงเจ้าเข้าผีต่างๆทั่วประเทศ ว่ามีพฤติกรรมที่เข้าข่ายความผิดในคดีต่างๆหรือไม่ อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปถึงประชาชนว่าการทำบุญทำได้ แต่ควรทำแต่พอดีไม่เดือดร้อนตัวเองด้วย” ผบก.ป. กล่าว








Advertisement

ส่วนการสอบสวน นายอาทิตย์ตยา เบื้องต้น ยังให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าเงินทั้งหมดนั้นเป็นเงินบริจาคมาร่วมสร้างสำนักปฏิบัติธรรม ทั้งหมดเกิดจากแรงศรัทธา ของผู้ที่มีความชอบ ความคิด และศึกษาเหมือนๆกัน เพื่อมาร่วมกันสร้างสำนัก เพื่อใช้ปฏิบัติธรรมในบันนปลายของชีวิต ไม่ได้เป็นการหลอกหลวงแต่อย่างใด ซึ่งเงินทั้งหมดอยู่ในบัญชีส่วนกลาง ตนไม่มีสิทธิ์ในการเบิกจ่ายอยู่แล้ว ภายหลังการสอบสวนจึงส่งตัวผู้ต้องหาให้ สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน