เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภ.1) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 กล่าวถึงการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับได้ แต่ประชาชนก็เริ่มลดลง รวมถึงมวลชนและพระสงฆ์ที่อยู่ภายในวัดพระธรรมกายด้วย
ส่วนพระสงฆ์ที่จะเดินทางมาสมทบกับพระสงฆ์ที่อยู่ภายในวัดนั้น ก็คงไม่สามารถทำได้ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปอยู่แล้ว นอกจากเป็นพระสงฆ์ของวัดพระธรรมกายจริงๆ ทั้งนี้ การที่มวลชนมีจำนวนลดลง และทางเจ้าหน้าที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนหรือไม่นั้น ก็เป็นอย่างที่เคยบอกและประชาชนก็คงเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่มาทำตามหน้าที่
พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวต่อว่า สำหรับการกดดันของเจ้าหน้าที่จะทำให้มวลชนที่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง จ.ปทุมธานี เพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ไม่เพิ่มและอยู่ในวงจำกัดพอสมควร อย่างเช่นเมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา เราได้ประเมินกันว่าจะมีมวลชนมาเพิ่ม แต่ก็ไม่เพิ่ม ส่วนกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ควบคุมระบบการสื่อสารและอินเตอร์เน็ตรอบพื้นที่วัดพระธรรกาย ส่งผลอะไรต่อวัดพระธรรมกายหรือไม่ ตนคิดว่าก็น่าจะส่งผล เพราะหากไม่ส่งผลมวลชนก็คงไม่ลดน้อยลง อย่างไรก็ตาม การที่เจ้าหน้าที่จะมีการปรับแผนหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ว่าจะมีการประเมินอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของการที่มวลชนลดลงจะทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นภายในวัดง่ายขึ้นหรือไม่ ผบช.ภ.1. กล่าวว่า แล้วแต่อธิบดีดีเอสไอว่าจะให้ดำเนินการเข้าตรวจค้นได้เมื่อไหร่ ส่วนอุปสรรคที่ยังทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าตรวจค้นได้ ก็ยังเป็นเรื่องที่มวลชนและพระสงฆ์ส่วนหนึ่งยังไม่เข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้ายึดวัดพระธรรมกาย แต่ต้องการเข้าไปตรวจสอบบุคคลตามหมายจับเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปยึดวัดตามที่ทางวัดให้ข่าวมา
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เจ้าหน้าที่จะยังไม่ใช้กำลัง โดยจะใช้การเจรจาต่อไป ส่วนกระแสตอบรับนั้นก็มีทุกวัน นอกจากนี้ สำหรับการเปลี่ยนตัวผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จะทำให้การทำงานง่ายขึ้นหรือไม่นั้น ก็คงง่ายขึ้นและดีขึ้น
เมื่อถามต่อว่า แสดงว่าแนวโน้มในสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนในการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายมากขึ้น พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า ก็คิดว่าสัปดาห์นี้น่าจะเห็นผล
เมื่อถามถึงกรณีเจ้าหน้าที่จับกุมตัวพล.ต.ต.รุ่งโรจน์ เภกะนันทร์ อายุ 73 ปี มีผลเชื่อมโยงกับใครหรือไม่ ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ไม่มี เป็นความศรัทธาของท่าน โดยไม่ได้มีลักษณะเคลื่อนไหวของการจัดกำลังอะไรแต่อย่างใด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวพล.ต.ต.รุ่งโรจน์ไว้ที่สภ.คลองหลวง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่มีการนำมวลชนการเมืองมาเกี่ยวข้องกับมวลชนที่ศรัทธาต่อวัดพระธรรมกาย พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า ดีเอสไอได้มีการออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องทางด้านการเมืองและวัดพระธรรมกายแล้ว ทั้งนี้ การข่าวของตำรวจยังทราบว่ามีการเคลื่อนไหวของกลุ่มบางส่วนด้วย
เมื่อถามต่อว่า บางส่วนที่ว่ามีการเคลื่อนไหวในลักษณะอย่างไร เป็นอดีตแกนนำมาปลุกระดมหรืออย่างไร พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า เป็นการ์ด ซึ่งทางตำรวจมีฐานข้อมูลในเรื่องนี้อยู่แล้ว และจะต้องมีการดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว ส่วนจะดำเนินคดีอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับอธิบดีดีเอสไอ บางรายหากตักเตือนแล้ว และยังดำเนินการอยู่ก็จะต้องดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ บุคคลที่เคลื่อนไหวเป็นกลุ่มนอกพื้นที่ ไม่ใช่ในพื้นที่แต่อย่างใด
