บิ๊กโจ๊กแถลงรวบเจ้าของบริษัทกาแฟเคชแบ็ค ร่วมกันฉ้อโกงมูลค่าความเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท
เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ปฎิบัติการ กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำทีมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ที่มีมูลค่าเสียหายกว่าสามพันล้าน เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 30 มีนาคม 2562
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ แถลงพร้อม นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนายการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมตำรวจ สตม.และตำรวจท่องเที่ยว ชุด ศปอส.ตร. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถึงการจับกุมตัวนายกิตติกร หรือ กร วรรณวสุธรอายุ 61 ปี
นายกิตติกรเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริตโดยการหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ร่วมกระบวนการได้แล้วจำนวน 8 คน ขณะหลบหนีไปกบดานในประเทศเวียดนาม
คดีนี้ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ เครือข่ายแชร์ลูกโซ่บริษัท กาแฟ แคชแบ็ค จำกัด เปิดบริษัทขึ้นมาเพื่อหลอกลวงให้ประชาชนมาร่วมลงทุนโดยการชักชวนสมัครสมาชิกทางเว็บไซต์ www.cofcashback.com
โดยเสนอผลตอบแทน 2-3.5 % ต่อวัน จ่ายผลตอบแทน 30 วัน รวมทุนบวกกำไร โดยแบ่งจ่าย 8 งวด ทุกวันที่ 5-10-15-20-25-30 ของเดือน ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท หรือจะให้ผลตอบแทนมากถึง 105 % ต่อเดือน
พร้อมกันนี้ ยังจัดแถลงข่าวเปิดตัวบริษัทต่อสื่อมวลชนหลายแขนง โดยอ้างหน่วยงานราชการ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ ปปง. ดีเอสไอ และกรมสรรพากร เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ มีประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อร่วมลงทุนด้วยหลายพันราย และร่วมสมัครสมาชิกกว่า 86,000 บัญชี มูลค่าความเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท
การสอบสวนพบว่า หลังจากเปิดบริษัทได้เพียง 2 เดือน ก็ปิดกิจการและหอบทรัพย์สินหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียเข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้วกว่า 1,000 ราย ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมกระบวนการ เหลือเพียงนายกิตติกร และนางสาวสิรวัญพร หรือภู่ ไชยวัชรคุปต์ อายุ 53 ปี หนีไปกบดานในประเทศเวียดนาม
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับ นายกิตติกร และนางสาวสิรวัญพร พร้อมประสานความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเวียดนาม ออกไล่ล่าติดตามจับกุมตัวนายกิตติกร เอาไว้ได้เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ส่วนนางสาวสิรวัญพรหลบหนีไปได้
จากนั้นนายกิตติกรถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดินทางไปรับตัวนายกิตติกรด้วยตัวเอง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนควบคุมตัวชไปชศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อชสอบสวนขยายผล สำหรับติดตามจับกุมตัวนางสาวสิรวัญพร มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน มีผู้เสียหายกว่า 30 รายที่ทราบข่าวว่าจับกุมตัวนายกิตติกร เดินทางมารอดูหน้าและชี้ยืนยันตัวตนนายกิตติกร พร้อมนำช่อดอกไม้มามอบขอบคุณพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ด้วย
