กลุ่มผู้สมัคร ส.ส. พลังปวงชนไทย กว่า 50 คน โร่ร้องกองปราบ ดำเนินคดีกรรมการบริหารพรรค ฐานฉ้อโกง หลังถูกหลอกจ่ายเงินหาเสียงรายละ 1.5 ล้านบาท แต่ไม่ได้คืน

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายสุบัน สุวรรณรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังปวงชนไทย (พลท.) เขต 4 จังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายนพดล เอมบัณฑิตย์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังปวงชนไทย เขต 4 จ.สุพรรณบุรี อดีตประธานสภา อบต.องค์พระ จ.สุพรรณบุรี และกลุ่มผู้สมัครส.ส.พรรคพลังปวงชนชาวไทย กว่า 50 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ภูมิรพี สังข์ทอง รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.ป.

เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกรรมการบริหารพรรคพลังปวงชนไทย ในฐานความผิดฉ้อโกง หลังหลอกให้สมัครเป็นสมาชิกพรรค สัญญาว่าจะให้ค่าใช้จ่ายสำหรับหาเสียงรายละ 1.5 ล้านบาท แต่ลูกพรรคต้องสำรองค่าใช้จ่ายดำเนินการเองทั้งหมดก่อน แต่พอเลือกตั้งเสร็จกับไม่ได้เงินตามที่ตกลงกันไว้

เกาะติดข่าวการเมืองข่าวเลือกตั้ง แค่กดเป็นเพื่อนกับไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายสุบัน กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางกรรมบริหารพรรคได้ชักชวนให้ตนและผู้เสียหาย ซึ่งมาจากหลากหลายสาขาอาชีพ ร่วมสมัครเป็นสมาชิกพรรค รวมทั้งให้ลงสมัคร ส.ส.สังกัดพรรคพลังปวงชนไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยยื่นข้อเสนอว่า หากมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยทางพรรคจะออกค่าใช้จ่ายให้คนละ 1.5 ล้านบาท เป็นงบประมาณตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนด

“แต่กลายเป็นว่า ลูกพรรคทั้งหมด 269 ราย ที่ลงรับสมัครตำแหน่ง ส.ส.เขตทั่วประเทศ ต้องนำเงินส่วนตัวสำรองจ่ายก่อน แต่เมื่อทวงถามไป ทางพรรคก็บ่ายเบี่ยงและอ้างว่าจะชดเชยคืนให้เรื่อยมา จนถึงปัจจุบันยังไม่มีใครได้รับเงินคืน หรือคืนไม่ครบตามวงเงินที่กำหนด ทั้งที่ทาง กกต.ได้มอบเงินสนับสนุนพรรคกว่า 30 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ผมและลูกพรรคบางส่วน เคยไปร้องเรียนกับกกต. ร้องขอให้ยุบพรรค พลม. เนื่องจากกรรมการบริหารพรรคผิดสัญญา” นายสุบัน กล่าว

ด้าน นายนพดล เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นส่งผลห้เกิดความเสียหาย ผู้สมัคร ส.ส.เขตทั่วประเทศ บางรายต้องลาออกจากอาชีพเดิมที่ทำอยู่ เพื่อให้มีคุณสมบัติตรงตามระเบียบของ กกต.ที่กำหนดไม่ให้ผู้สมัครเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. ดำรงตำแหน่งหรือประกอบอาชีพอื่น ๆ และออกเงินค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งเองจนเป็นหนี้สิน ขณะที่ที่ทำการพรรคสาขา จ.สุพรรณบุรี ได้รับผลกระทบเพราะสมาชิกไม่สามารถรวบรวมเงินมาจ่ายค่าเช่า และยังถูกตัดไฟจนต้องปิดตัวลง

“อย่างไรก็ตาม การรวมตัวครั้งนี้ไม่ใช่มติของทางพรรค แต่เดินทางมาด้วยความสมัครใจไม่มีใครชี้นำ ขณะนี้ทราบว่าตัวแทนพรรคประจำสาขา จ.สุรินทร์ และอื่น ๆ ได้แจ้งความร้องทุกข์กับโรงพักในท้องที่เรียบร้อยแล้ว โดยต่อจากนี้ทางเราจะเดินทางไปยังที่ทำการ กกต. เพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนต่อไป ทั้งนี้หากทางพรรคถูก กกต.วินิจฉัยให้ยุบพรรค เราพร้อมยอมรับความจริงและขั้นตอนของกฎหมาย เพราะเรายังมีหลักฐานการฉ้อโกงของกรรมการบริหารพรรคด้วย” นายนพดล กล่าว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับเรื่องร้องทุกข์ไว้พร้อมสอบปากคำผู้แจ้งความ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานและรายงานเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้มีรายงานว่าขณะที่กลุ่มผู้เสียหายกำลังแจ้งความ นายประเทศ ทับทิมหิน รองหัวหน้าพรรค ได้เดินทางมาเพื่อเจรจา โดยระบุว่า ทางพรรคยังไม่ได้รับเงินสนับสนุนจาก กกต. ตามที่อดีตผู้สมัครบางส่วนกล่าวอ้าง เป็นความเข้าใจผิด ส่วนกรณีที่สมาชิกพรรคเปิดเผยภาพนายนิคมไปเข้าพบกับ นายทักษิณ นั้นเป็นภาพเก่ากว่า 10 ปีแล้ว ไม่ใช่ภาพปัจจุบัน ซึ่งนายนิคมมีความสนิทสนมกับนายทักษิณ และชอบไปทำบุญร่วมกัน ต่อจากนี้ทางพรรค เตรียมที่จะแจ้งความดำเนินคดีกลับฐานแจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาททำให้พรรคเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน