“บิ๊กตู่” โต้ม.44 ไม่ปิดกันความช่วยเหลือคนตายในธรรมกาย เชื่อ “ธัมชโย” ยังอยู่ในวัด ขอสื่อหยุดเสนอข่าวธรรมกาย เพราะไม่เป็นความจริง “จวก”พวกทำผิดยังหนีไปตปท. “ระบุ”อย่าใช้วิกฤติศรัทธามาเป็นเกราะป้องกันตัวเอง “ท้า”ถ้าคิดว่าบริสุทธ์ให้ออกมาสู้คดี
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 2 มี.ค.ที่เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของลูกศิษย์ธรรมกายเป็นรายที่สอง ว่า เขาชี้แจงกันหรือยังว่าเสียชีวิตในวัดตรงไหน ในห้องปิดล็อคหรือไม่ แล้วตายมากี่ชั่วโมงแล้ว คิดกันบ้าง ไม่ต้องมาถามตน ส่วนที่อ้างว่าสาเหตุเพราะติดด่านมาตรา 44 นั้น ควไม่ใช่ใครจะไม่ให้เข้าไปดู มันเป็นข้ออ้างแล้วสื่อจะบ้าตามเขาทำไม แล้วสื่อก็เป็นเครื่องมือเขาแบบนี้ตนชี้แจงไปกี่ครั้งแล้วจะเอาอะไรอีก
“ผมไม่เคยไปกำหนดสื่อเลย พูดแล้วก็ชี้แจง แต่ท่านจะมากำหนดผมไม่ได้ จำเอาไว้ ในเมื่อผมแตะท่านไม่ได้ ท่านก็อย่ามาแตะผม ที่ถามกันว่าทางวัดธรรมกายเขาต้องการปฏิบัติตามหลักไอโอ (จิตวิทยา) เขาพูดความจริงหรือเปล่า ถ้าจริงก็รับ ไม่จริงก็ไม่รับ สื่อต้องไปพูดความจริง ไม่ใช่ไปต่อความยาวสาวความยืด คิดถึงเจ้าหน้าที่ที่เขาทำงานนอนอยู่สามพันคน เขาร้อน คิดถึงลูกเมีย คิดกลับมาทางนี้บ้าง ไม่ใช่ไปทำให้กับคนที่ทำผิดกฎหมายตลอด ไปฟังเขาตลอด แก้ปัญหาไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ประเมินว่าสถานการณ์ขณะนี้เป็นการปกป้องพระธัมมชโยหรือปกป้องวัด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เขาประเมินว่าธัมมชโยยังอยู่ ถ้าไม่อยู่เขาก็คงให้เจ้าหน้าที่เข้าไปแล้ว ถ้าจะบอกว่าไม่มีคนอยู่ ถ้าไม่อยู่จริงๆ คงให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทุกอย่างก็จบ ให้เข้าไปตรวจ เพราะเจ้าหน้าที่ต้องทำงาน คุณจะมาบอกว่าผิดเล็กผิดน้อย แล้วอ้างคนบางคนว่าผิดมากกว่า อ้างอย่างนี้ได้ที่ไหน ใครทำกัน พฤติกรรมเลียนแบบอย่างนี้ใช้ไม่ได้ อย่าไปขยายความให้เขาแบบนี้
เมื่อถามว่า ในการข่าวมีการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นขบวนการอะไร แล้วมาเขียนเป็นตุเป็นตะไปหมด “สื่อก็มีข้อมูลทั้งหมด แต่ต้องการให้ผมตอบกับสิ่งที่มีปัญหากับคนอื่น สื่อเองต้องบอกให้เขาหยุดการต่อต้านเจ้าหน้าที่ ถ้าคิดว่าทำถูก บริสุทธิ์ก็ออกมาต่อสู้คดีทางกฎหมาย อย่าใช้วิกฤตศรัทธาประชาชนเป็นเกราะป้องกันตัวเอง ถ้าไม่ผิดก็คือไม่ผิด ปัญหาแบบนี้เกิดมากี่ครั้งแล้ว หลายคนก็หนีไปต่างประเทศ แต่หลายคนที่ทำก็ยอมรับโทษ แต่บางพวกไม่รับ ทำอยู่อย่างนี้ สื่อก็ให้ท้ายอยู่แบบนี้ วันนี้ผมจำเป็นต้องพูดเพราะเบื่อ ทุกคนคือคนไทยต้องมีหลักคิด ทำอะไรต้องมีหลักในการคิด อย่าใช้หลักการของสื่ออย่างเดียว วันนี้ประเทศกำลังมีปัญหาจะทำกันแบบปกติได้อย่างไร
ผมเชื่อว่าสื่อทุกคนมีจรรยาบรรณ คิดเป็น แต่ต้องพยายามลดปัญหาให้ผมบ้าง ให้กฎหมายและเจ้าหน้าที่ทำงาน ไปฟังอีกข้างที่พูดเป็นสิบเรื่องมันจริงบ้างไม่จริงบ้าง แต่ก็นำมาเผยแพร่ให้เขาอีกมันจะให้สงบสุขได้ย่างไร ศาสนาจะปลอดภัยอย่างไร ทำตามคำสอนพระพุทธเจ้าได้อย่างไร คิดตรงนี้ อย่าคิดว่าผมกำลังรบกับพระ กำลังทำลายศาสนา ถ้าวิจารณ์กันแบบนี้ ก็ท้อใจเหมือนกัน แต่ท้อไม่ได้ เพราะต้องยืนตรงนี้”
เมื่อถามว่า วันนี้จะเป็นสะพานที่เข็มแข็งได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “แล้วสื่อจะไม่เป็นสะพานร่วมกันหรือ หรือจะรอเหยียบอย่างเดียว เห็นแก่ตัวเกินไปหรือไม่ ทุกอย่างมีปัญหา ถ้าไม่ร่วมมือกันพูดอะไรมีปัญหาหมด ถ้าไม่ช่วยสร้างแล้วมันจะแข็งแรงได้อย่างไร จะรอแต่ประโยชน์กันอย่างเดียวได้อย่างไร ที่ทำทุกวันไม่ได้ทำเพื่ออำนาจหรือเพื่อผลประโยชน์ ขอให้นึกถึงผมบ้าง ไม่ใช่มาไล่ล่ากันทุกวัน ไปไล่ล่าคนทำผิดดีกว่า ไม่เช่นนั้นคนดีก็ไม่อยากทำงาน”
