เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีผู้เสียชีวิตในวัดพระธรรมกายจะทำให้เกิดเป็นปัญหาบานปลายหรือไม่ ว่า เรื่องวัดธรรมกายจะเป็นประเด็นมาโทษเจ้าหน้าที่ได้อย่างไร ตนขอถามว่าในวัดธรรมกายมีสถานพยาบาลหรือไม่ ซึ่งก็มีและดีด้วยก็ต้องสอบสวนกันไป และความจริงก็เกิดจากคนๆเดียว เป็นปัญหาใหญ่โต บ้านเมืองยุ่งเหยิงอย่างนี้ก็เพราะคนๆเดียว ก็ต้องคิดดูให้ดี

“แล้วในพื้นที่มีอะไรถึงไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูเพราะอะไร ผมก็ไม่เข้าใจ และอยากรู้ อยากเข้าไปดู มีสิ่งที่เจ้าหน้าที่เห็นไม่ได้หรือไง ผมไม่เข้าใจ ถ้าบริสุทธ์ใจก็น่าจะเปิดให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูใช่ไหม ให้เจ้าหน้าที่ดู และที่มีหมายจับก็มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเสียก็หมดเรื่อง ก็จบ และความจริงเราก็ไม่อยากใช้มาตรา 44 นัก”

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากนี้จะมีการคัดกรองผู้ป่วยออกจากพื้นที่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนั้นต้องเป็นเรื่องของวัดธรรมกาย ไม่ใช่เรื่องของเจ้าหน้าที่ หรือถ้าจะให้ตนคัดกรอง จะให้ตนเข้าไปหรือไม่ จะยอมไหม ให้ตนไปคัดกรอง ตนจะให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ดีเอสไอ มส. พระ ฝ่ายปกครอง ร่วมมือกัน หรือจะให้ใครก็เลือกมา เขาพร้อมเข้ากันทั้งหมด เข้าไปดูแล้วว่าถ้าไม่มีคนที่มีหมายจับอยู่ก็จบ และให้เจ้าหน้าที่ไปดูว่าข้างในนั้นมีอะไรบ้าง ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่

เมื่อถามว่า มีความพยายามปลุกระดมมวลชนว่าการที่ทำให้มีคนตายเพราะมาตรา 44 ทำให้ต้องตรวจเข้มงวด รองนายกฯ กล่าวว่า “ไม่ใช่เลยๆ ไม่ใช่ว่ามีมาตรา 44 แล้วทำให้เกิดคนตาย ทั้งคนขับ ทั้งนิติเวช ก็ออกมาให้สัมภาษณ์กันหมดทุกอย่าง และข้างในนั้นก็มีสถานพยาบาล พูดอย่างนี้เป็นการปลุกระดม เรื่องแค่นี้จะมาไอโออะไรกัน ผมว่ามันไม่ใช่ เราคนไทยด้วยกันทั้งนั้น ถ้าคิดว่าไม่ผิดก็ไม่ผิด แต่เมื่อมีการบอกว่าผิดก็ออกมารับแล้วเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม บ้านเมืองมีกฎหมาย สื่อเองก็ต้องบอก ขอให้ช่วยกัน จะมาบอกว่าเป็นประเด็นที่ต่อสู้กันได้อย่างไร เราไม่ได้ต่อสู้กัน”

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาวัดธรรมกายให้ข่าวที่ไม่ตรงกับข้อมูลที่รัฐบาลชี้แจงมาโดยตลอด รัฐบาลต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สื่อก็ต้องช่วยตน เพราะก็เห็นอยู่แล้ว รัฐบาลทำทุกอย่างโปร่งใส ไม่มีเรื่องไหนปิดบัง อยากจะดูตรงไหนก็ให้ดู ให้ดูได้หมดทั้งประเทศ

ต่อข้อถามว่า มีขบวนการปล่อยข่าวว่ารัฐบาลจะเข้ายึดวัดมากกว่าที่จะเข้าจับพระธัมมชโย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไปยึดอะไร โธ่เอ้ย ของอยู่กับที่แล้วรัฐบาลจะต้องเสียกำลังเข้าไปยึดอะไร ผมไม่เห็นมีความจำเป็น สื่อก็บอกแทนผมไปเลยว่าไม่จริง”

เมื่อถามว่า การข่าวรายงานหรือไม่ว่าพระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัดหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ เราไม่แน่ใจ ตอนแรกก็นึกว่าอยู่ เอากำลังไปโดยที่ไม่คิดจะใช้มาตรา 44 แต่รู้สึกว่าขัดขวางเหลือเกิน ขัดขวางเพราะอะไร ปกป้องสถานที่ หรือปกป้องกลุ่มคนกันแน่ พอขอเข้าไปดูแล้วไม่ให้เข้าก็ยิ่งสงสัยว่าอยู่หรือไม่ เมื่อถามว่า สัญญาณโทรศัพท์คนใกล้ชิดพระธัมมชโยมีรายงานยังจับสัญญาณได้อยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อันนั้นเป็นเรื่องของการข่าว ปล่อยเขา

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสราชวรวิหาร เสนอให้รัฐบาลหารือคณะสงฆ์และมหาเถรสมาคม เพื่อแก้ปัญหาวัดธรรมกายโดยให้มีการตั้งคณะตัดสินหรือระงับอธิกรณ์ตามพระธรรมวินัย รองนายกฯ กล่าวว่า “ธัมมชโยมีพระธรรมวินัยหรือเปล่าผมไม่รู้ สื่อตอบได้หรือไม่ ผมก็ตอบไม่ได้ เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน