วันที่ 3 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้าน พร้อมกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชร รุมจับตัวลูกเมาคลั่งขอเงินไปซื้อเหล้าเพิ่มไม่ได้ คว้ามีดฟันหัวและตีกกหู แม่แท้ๆ ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ นอนอยู่ในบ้านจนได้รับบาดเจ็บสาหัสคาบ้านกลางดึก แถมทำร้ายหลายชายและหลานสาวอีก 2 คน แต่โชคดีวิ่งหนีได้ทัน หน่วยกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชร ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกทำร้าย ที่บ้าน หมู่ 2 ต.นครชุม อ.เมืองกำแพงเพชร เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2560 เวลา 23.30 น. จึงรุดเดินทางไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เมื่อไปถึงบ้านเกิดเหตุ พบนางขวัญใจ สมเนตร อายุ 60 ปี ร่างกายส่วนหนึ่งเป็นอัมพฤกษ์ อยู่ในสภาพถูกทำร้ายร่างกายที่ปลายคิ้วมีรอยแผลคล้ายถูกของมีคม และที่กกหูด้านซ้ายมีรอยถูกตี โดยมีคราบเลือดติดอยู่ตามใบหน้า กำลังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด และขอความช่วยเหลือ จึงรีบปฐมพยาบาลในเบื้องต้น จากนั้นจึงได้รีบนำร่างของผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชร ทันที
ต่อมา ร.ต.อ.อาทิตย์ บุญพวงสถาพร พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร ได้เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ พบอาวุธมีดอีโต้ 1 เล่ม ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นลูกชายแท้ๆ ของผู้บาดเจ็บชื่อ นายพอเจตน์ หรือ เผือก อายุ 39 ปี ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาเป็นคนลงมือทำร้ายร่างกายมารดาของตนเอง หลังก่อเหตุชาวบ้านและหน่วยกู้ภัย ช่วยกันควบคุมตัวไว้ได้ ในสภาพมึนเมาด้วยพิษสุราอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การวกวน คล้ายคนไม่รู้สึกตัว ส่วนสาเหตุที่อยู่ในอาการบ้าคลั่งถึงกับทำร้ายแม่ตัวเอง ซึ่งเป็นอัมพฤกษ์ คาดว่า ก่อนหน้าได้ขอเงินแม่จำนวน 200 บาท ไปดื่มสุราตั้งแต่ช่วงบ่าย จนเมา เมื่อขอเงินแม่เพิ่ม เพื่อไปดื่มเหล้าต่อไม่ได้ ด้วยอาการเมาไม่ได้สติ จึงได้ทำร้ายร่างกายแม่ดังกล่าว
อย่างไรก็ตามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า นายพอเจตน์ หรือ เผือก ซึ่งอาศัยอยู่บ้านใกล้กันกับบ้านของแม่ตนเองนั้น ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายแม่ตัวเองที่อยู่กับหลานชายและหญิง ที่ยังเด็กอีก 2 คน มาแล้วหลายครั้ง โดยครั้งนี้นอกจากจะทำร้ายแม่ตัวเองแล้ว ยังทำร้ายร่างกายหลานทั้ง 2 คนด้วย แต่เด็กทั้ง 2 ก็วิ่งหลบหนีไปได้ทัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนายพอเจตน์ ไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร และได้นำตัวเข้าไปสงบสติอารมณ์ในห้องควบคุม หลังจากสร่างจากอาการเมาแล้วก็จะได้ทำการสอบสวนหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณภาพ
