บุกจับสาวสองสุดแสบ เปิดเฟซบุ๊ก ตุ๋นลงทุนแชร์ทองคำ หลังหนีกบดานนาน 3 ปี พบเหยื่อหลายสิบรายสูญเงินนับล้านบาท เจ้าตัวสารภาพสิ้น ศึกษาบทเรียนที่เคยถูกหลอกมาก่อน เผยเปิดห้องพักราคาแพงหนีการจับกุม

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 8 เม.ย. พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน พร้อมด้วย พ.ต.ท.จารุกิตติ์พัฒน์ สุขยิ่ง และ พ.ต.ท.นุสรณ์ อ้นน้อย สว.สส.สน.บางขุนเทียน นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน เข้าจับกุม นายพายุทัศ หรือ เปรี้ยว พองภู่ อายุ 25 ปี สาวประเภท 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 164/2562 ลงวันที่ 1 มี.ค.2562 โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าคอนโดแอสปาย-สาทร ถนนราชพฤกษ์ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม.

ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงแสดงตัวเป็นคนอื่นโดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันมิใช่การกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน”

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา นายพายุทัศ เคยเปิดเพจเฟซบุ๊กชื่อ “บ้านแชร์ทองลงทุนกินดอก” เพื่อชักชวนผู้เสียหายหลายสิบราย โอนเงินมาลงทุนซื้อทอง แล้วอ้างว่าจะมีเงินปันผลให้ ซึ่งช่วงแรก ๆ ที่ผู้เสียหายทดลองโอนเงินทีละน้อยเข้าบัญชีของ นายพายุทัศ จากนั้นก็จะมีการโอนเงินปันผลคืนให้จริง แต่เมื่อหลอกเหยื่อจนตายใจยินยอมโอนเงินให้ครั้งละมาก ๆ

พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวต่อว่า จากนั้น นายพายุทัศ ก็ปิดเพจหลบหนีไป ไม่สามารถติดตามตัวได้ ยอดรวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 1 ล้านบาท ต่อมาเมื่อช่วงประมาณเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ได้จับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการเดียวกันไว้ได้ 2 ราย โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นเพียงลูกมือของ นายพายุทัศ ได้เงินส่วนแบ่งคนละเล็กน้อยเท่านั้น

พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำขยายผล พบเบาะแสว่า หลังหลบหนี นายพายุทัศ ก็เลิกพฤติกรรมหลอกคนมาเล่นแชร์ แต่หอบเงินนับล้านไปใช้จ่ายสุขสบาย และเปลี่ยนห้องเช่าเรื่อยมาจำนวนหลายครั้ง กระทั่งพบว่าเจ้าตัวไปเช่าพักอยู่ที่คอนโดแอสปาย-สาทร ถนนราชพฤกษ์ จึงนำกำลังบุกไปจับกุมตัวได้ดังกล่าว

จากการสอบสวน นายพายุทัศ ยอมรับว่า ตนเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ถูกออกหมายจับ และหลังจากเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ที่วางแผนก่อเหตุจนได้เงินมานับล้านบาท ก็ยังไม่เคยโดนจับกุมมาก่อน เหตุเพราะว่าตนจะเปลี่ยนแปลงที่อยู่ไปเรื่อย ๆ โดยเลือกเช่าห้องพักราคาแพง ๆ เดือนละ 10,000 บาทขึ้นไป เพราะมั่นใจระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี มีนิติบุคคลดูแล ป้องกันการถูกรบกวนจากบรรดาผู้เสียหายที่ติดตามตัวตนจนเจอ

นายพายุทัศ กล่าวต่อว่า ส่วนวิธีการหลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินเข้าบัญชีนั้น ตนศึกษามาจากบทเรียนที่ตัวเองก็เคยโดนหลอก จนเสียเงินให้เพจระดมเงินเล่นแชร์มาแล้ว จำนวนหลายหมื่นบาท ตนเห็นเป็นวิธีหากินที่ได้เงินดี จึงทดลองเปิดเพจระดมเงินเล่นแชร์ดูบ้างเพียงไม่กี่วัน ตนก็ได้เงินโอนเข้ามาวันละ 30,000–100,000 บาท ยอดรวมนับได้ประมาณ 1 ล้านบาท

นายพายุทัศ กล่าวอีกว่า สำหรับเงินที่ได้มาจากการก่อเหตุนั้นปัจจุบันนี้ตนใช้จ่ายหมดไปกับการเที่ยวเตร่ เลี้ยงผู้ชาย และค่าเช่าห้องพักไปหมดแล้ว โดยทุกวันนี้ต้องไปทำงานเป็นพนักงานบาร์เกย์หารับแขกต่างชาติ ย่านถนนสีลม จนกระทั่งถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้ในที่สุด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนผู้เสียหายรายใดสงสัยเคยร่วมเล่นแชร์ ในเพจเฟซบุ๊กชื่อ “บ้านแชร์ทองลงทุนกินดอก” ที่นายพายุทัศเคยเปิดเพื่อหลอกให้เหยื่อโอนเงินเอาไว้ ขอให้เดินทางมาอายัดตัวได้ที่ สน.บางขุนเทียน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน