สั่งให้ออกจากราชการ ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ด.ต.หึงโหด ยิงกิ๊กหนุ่มดับ หลังเคลียร์รักสามเส้าไม่ลงตัว เผยด.ต.โทรให้เมียกับกิ๊กหนุ่มมาเคลียร์ปัญหาที่หน้าโรงพัก แต่คุยไม่ลงตัว ชักปืนรัวยิงกิ๊กหนุ่มดับ ก่อนเผ่นหนี ล่าสุดติดต่อขอมอบตัวแล้ว แต่ไม่ระบุวันเวลา

กรณี นายกวิตม์ เหมือนชู อายุ 37 ปี ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณหน้า สภ.เมืองสมุทรสาคร เมื่อเวลา 05.30 น. ที่ผ่านมา มีบาดแผลถูกยิงที่ด้านหลังท้ายทอยทะลุ 2 นัด เอวด้านหลัง ทะลุหน้าท้อง 2 นัด แขนข้างขวา เหนือศอก 1 นัด ใต้ศอก 1 นัด มือขวาแตกถูกยิง 1 นัด พบเงินสดหลายหมื่นบาทในตัวผู้ตาย ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 4 ปลอก และรอยเลือด ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ ด.ต.ภัคภณ สมิตานนท์ ผบ.หมู่(ป) สภ.เมืองสมุทรสาคร ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ด.ต.หึงโหด / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ให้สัมภาษณ์เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เบื้องต้นหลังจากที่สอบปากคำภรรยาสาวของผู้ก่อเหตุที่อยู่ในเหตุการณ์ตลอดเวลา ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ ด.ต.ภัคภณ สมิตานนท์ ผบ.หมู่(ป) สภ.เมืองสมุทรสาคร ปฏิบัติหน้าที่ประจำหน่วยบริการประชาชนแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร

ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกับผู้ก่อเหตุและภรรยาสาว นัดมาเจรจากันถึงปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นระหว่าง 3 คน เพราะก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ ผู้ก่อเหตุจับได้ว่า ผู้ตายที่เป็นคนขับรถของบริษัท สมชายซีฟู้ดส์ แอบแชทไลน์และคุยเฟซบุ๊กกับภรรยาสาวของตนเอง ที่ทำงานเป็นพนักงานบัญชีของบริษัทดังกล่าว จึงเกิดความสงสัยในความสัมพันธ์ของบุคคลทั้ง 2 และในที่สุดก็นัดมาคุยกันเพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ก็ตกลงกันไม่ได้ จนนำไปสู่การฆ่ากันตาย

พ.ต.อ.จิระวุฒิ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุแล้วคนร้ายหลบหนีไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทั้งของ สภ.เมืองสมุทรสาคร และสืบสวนภูธรจังหวัดก็กระจายกำลังลงตรวจกล้องวงจรปิด ในทุกเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี อีกทั้งยังกดดันทุกวิถีทางเพื่อให้คนร้ายเข้ามอบตัว ซึ่งด.ต.ภัคภณติดต่อขอเข้ามอบตัว แต่ยังไม่ระบุวันและเวลาที่ชัดเจน

โดยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ในฐานะผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรสาคร และในฐานะผู้บังคับบัญชาของผู้ก่อเหตุ ก็ขอยืนยันว่าจะไม่มีการช่วยเหลือ หรือเข้าข้างผู้กระทำความผิดแต่อย่างใดทั้งสิ้น ส่วนสาเหตุที่ชัดเจนนั้นยังไม่ขอระบุว่าเกิดจากปมใด ต้องรอให้ได้ตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำก่อน ขณะที่การออกหมายจับนั้น ก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้เป็นที่ชัดเจน แล้วจึงจะขออนุมัติศาลจังหวัดสมุทรสาคร ออกหมายจับต่อไป

ด้าน ร.ต.อ.พลกฤษณ์ เกิดน้อย รองสว.สอบสวนสภ.เมืองสมุทรสาคร กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตทำงานเป็นพนักงานขับรถอยู่ที่บริษัท สมชายซีฟู๊ด ม.3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งจะรู้จักกับภรรยาของตำรวจที่ก่อเหตุ โดยภรรยาของด.ต.ทำงานอยู่ที่เดียวกันกับผู้ตาย ส่วนเรื่องคดีนั้นกำลังสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐานอยู่เพื่อดำเนินการออกหมายจับต่อไป

สำหรับประวัติของ ด.ต.ภัคภณ สมิตานนท์ ผบ.หมู่ (ป) สภ.เมืองสมุทรสาคร ปฏิบัติหน้าที่ประจำหน่วยบริการประชาชนแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาครนั้น เบื้องต้นพบว่า เป็นคนเงียบๆ เฉยๆ ไม่ค่อยพูดจากับใคร ในอดีตเคยเป็นตำรวจตชด.มาก่อน จากนั้นย้ายมาสังกัด ผบ.หมู่งาน (ป) สภ.เมืองสมุทรสาคร โดยได้รับหน้าที่ให้ไปประจำศาล ก่อนที่จะย้ายออกมาปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่หน่วยบริการตำรวจประชาชนแห่งหนึ่งประมาณ 2 ปีเศษ แล้วก็มาก่อเหตุดังกล่าว

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุชายถูกยิงเสียชีวิต บริเวณสภ.เมืองสมุทรสาคร ว่า จากการตรวจสอบพยานเป็นหญิงในที่เกิดเหตุ ให้การว่า ตนสมรสกับด.ต.ภัคภณ สมิตานนท์ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป) สภ.เมืองสมุทรสาคร ผู้ก่อเหตุ ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันเดียวกัน ผู้ก่อเหตุออกไปปฏิบัติหน้าที่ ที่สภ.เมืองสมุทรสาคร ต่อมาผู้ก่อเหตุโทรศัพท์มาหาตน บอกให้เรียกผู้ตายมาเพื่อตกลง เรื่องที่ตนแอบคบกับผู้ตาย จึงโทรแจ้งผู้ตายให้มาพบทั้ง 3 ฝ่ายที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โดยแจ้งว่าทางผู้ก่อเหตุต้องการที่จะขอพูดคุยด้วย ต่อมาตนจึงขี่รถจักรยานยนต์มาตามนัด พบสามีของตนซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุยืนรออยู่ก่อนแล้ว สักพักผู้ตายก็มาถึง จากนั้นพูดคุยกันสักพักหนึ่ง ก่อนผู้ก่อเหตุชักปืนออกมายิงผู้ตายจำนวนหลายนัด เป็นเหตุให้เสียชีวิต จากนั้นหลบหนีไป ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ รวมถึงตรวจสอบรวบรวมข้อมูลกล้องวงจรปิดโดยรอบบริเวณที่เกิดเหตุ

“หลังจากการรวบรวมพยานหลักฐานสำคัญทั้งหมดในคดี พนักงานสอบสวนก็ขออนุมัติศาลจังหวัดสมุทรสาคร ออกหมายจับด.ต.ภัคภณ ผู้ก่อเหตุ “ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมกันนี้ ในส่วนของการดำเนินการทางวินัย พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร จะมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และไม่ให้เกิดความเสียหายกับทางราชการ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว กำชับให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนด้วยความ รอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากปรากฏพบว่ามีความผิดใดที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดและกำชับผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยในสังกัดคอยสอดส่องดูแลความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด หมั่นถามไถ่ สารทุกข์สุขดิบเป็นประจำ ให้คำแนะนำหรืออบรม สั่งสอน ความประพฤติ คุณธรรม จริยธรรม อยู่เป็นสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก” รองโฆษก ตร.กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน