วิศวกรรมสถาน เผยจุดต้นเพลิง จากใต้ดิน พุ่งไหม้ชั้น 8 ชี้โครงสร้างบางส่วนเก่า!

จากกรณีไฟไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พื้นที่เขตปทุมวัน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีกนับสิบคนนั้น ซึ่งวิศวกรรมสถานฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ กทม. ได้เข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบอาคาร

เมื่อเวลา 12.00 น. ที่หน้าอาคารจุดเกิดเหตุ ศ.ดร.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร นายธีรยุทธ ภูมิศักดิ์ รองผอ.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ ที่ปรึกษา วสท. นายพินิต อารยะศิลปะธร ผอ.เขตปทุมวัน นายนพดล ฉายปัญญา ผอ.สำนักการโยธาธิการ กรุงเทพฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมกันแถลงข่าว

นายธีรยุทธ กล่าวว่า ตามพฤติกรรมของไฟเมื่อจุดติดไหม้แล้วจะลอยสู่ด้านบน จุดต้นเพลิงอยู่ชั้นบี 2 เป็นห้องปิดทึบ มีอุปกรณ์คือระบบเครื่องสูบน้ำดับเพลิง มีบ่อบัดน้ำเสีย อาจเป็นเชื้อเพลิงทำให้ไฟลุกไหม้ในบริเวณดังกล่าวนาน และยังมีอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าหลายตัว

ดังนั้น เมื่อไฟไหม้ความร้อนและควันจะลอยขึ้นสูงไปตามท่อขนาดใหญ่ 3 ท่อที่ใช้ระบายอากาศมุ่งขึ้นไปชั้น 8 เพื่อระบายควันออกนอกตัวอาคาร

แต่เมื่อควันลอยไปชั้น 8 ได้ชนกับฉนวนกันความร้อน ควันและความร้อนที่สะสมได้แผ่ออกด้านข้าง ทำให้เกิดประกายไฟขึ้นที่ชั้น 8 ซึ่งปกติจะมีท่อเชื่อมเพื่อระบายไปนอกตัวอาคาร แต่ด้วยความร้อนที่สะสมทำให้ท่อระบายซึ่งไม่ได้ถูกออกแบบมาให้กันความร้อน พังแตกหักลงมา ทำให้ควันและไฟกระจายไปชั้น 8 ซึ่งมีวัสดุติดไฟ เช่น เก้าอี้ โต๊ะ และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ

เมื่อควันอยู่ที่ขั้น 8 ไม่ถูกระบายไปนอกตัวอาคาร ควันจึงกระจายจากชั้น 8 กดตัวต่ำ ถ้าดับเพลิงไม่ทันก็จะลงไปตามชั้น 7 ไล่ลงไป ช่วงเกิดเหตุดับเพลิงพบว่าไฟไหม้ชั้น 8 เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่พบต้นเพลิง แต่ว่าควันเยอะช่วงชั้น 7-8 แต่ชั้นอื่นไม่เยอะ จึงตรวจสอบลงไปทีละชั้น โดยใช้กล้องตรวจจับความร้อนหรือกล้องเทอร์มอล พบว่าต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นบี 2 จึงฉีดโฟมอัดเข้าไปที่ชั้นบี 2 เพื่อตัดอากาศ ทำให้เพลิงมอดไปในที่สุด

ด้าน ศ.ดร.อมรกล่าวว่า เบื้องต้นโครงสร้างอาคารแข็งแรง และต้องดูเรื่องระบบทั้งท่อต่างๆ เชื้อเพลิงในอาคารและรบบป้องกันอัคคีภัย อาคารนี้สูงเกิน 23 เมตร ต้องอยู่วิศวกรรมควบคุม ทางสภาจะเชิญวิศวกร ผู้ออกแบบอาคารมาสอบสวน เพื่อดูว่าการออกแบบถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ขณะที่ในส่วนของสภาวิศวกรจะตรวจสอบท่อปล่องจากชั้นบี 2 ขึ้นไปชั้น 8 นั้น ดูว่าสามารถทนความร้อนได้กี่องศา และตรวจสอบจุดแตกหักว่ามีรอยรั่วอยู่แล้ว หรือเป็นการอัดอั้นของกลุ่มควัน

เนื่องจากอาจมีคราบน้ำมันจากการทำอาหารทำให้ท่ออุดตัน จนทำให้ควันไม่ระบายออกไปข้างนอกตัวอาคาร ตรวจสอบพื้นที่จุดที่คนตกลงมา พบว่าหน้าต่างสูงจากพื้น 1.50 เมตร มีร่องรอยทุบกระจกเพื่อพยายามหนีออกไปข้างนอก ต้องตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากการระเบิดของท่อทำให้ไฟขวางประตูหนีไฟทำให้หนีไม่ได้ หรือผู้เสียชีวิตมีลักษณะตกใจหนีออกทางหน้าต่างจนตกลงมา ต้องรอผลสรุปลำดับเหตุการณ์จากทางเซ็นทรัล ที่จะต้องส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป

นายพิชญะ กล่าวว่า สำหรับระบบป้องกันไฟไหม้ ปกติใช้กัน 2 ระบบควบคู่กันไป คือ ระบบอัตโนมัติและระบบให้คนสั่งการ สำหรับที่ชั้นบี 2 ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ยังหาจุดเกิดเหตุที่ไฟไหม้จริงๆ ไม่พบทำให้ไม่รู้ว่าสปริงเกอร์ที่จุดดังกล่าวทำงานหรือไม่ เพราะถูกเพลิงไหม้หมด แต่จากแบบแปลนเข้าใจว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารเก่าสมัยห้างเวิลด์เทรดเซนเตอร์ ที่ผ่านมาการก่อสร้างอาคารนั้นมีกฎหมายควบคุม แต่ตัวอาคารเก่านั้น อาจไม่ทันกับกฎหมายใหม่ที่ออกมา

ซึ่งกฎหมายก็แนะนำเรื่องการป้องกันอาคาร แต่ไม่มีบทลงโทษ ในกรณีนี้ท่อจากชั้นบี 2 ซึ่งพาควันไฟขึ้นไปชั้น 8 ตามปกติจะมีท่อระบายอากาศความยาว 60 เซนติเมตรระบายควันออกไป แต่เมื่อความร้อนพุ่งไปตามท่อ ทำให้ท่อระบายอากาศพังจนไม่สามารถระบายควันออกไปได้ จนไฟลุกลามไปชั้น 8 ต้องเข้าใจว่าท่อที่เชื่อมมาจากชั้นบี 2 สู่ชั้น 8 นั้น เป็นท่อระบายอากาศเสีย และที่วางท่อให้ไปสุดแค่ชั้น 8 ไม่ใช่ชั้นดาดฟ้า เพราะอาคารเก่าถูกออกแบบมาในลักษณะดังกล่าว จึงมีจุดอ่อนในบางเรื่อง

นายพิชญะ กล่าวต่อว่า ปล่องควันที่ทำให้ไฟลุกลามนั้น ห่างจากจุดที่ผู้เสียชีวิตโดดออกมาประมาณ 10 เมตร และปล่องห่างจากประตูเพียง 3-4 เมตร คาดว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองพยายามจะดับไฟ ช่วยเหลือให้คนอื่นหนี หรืออาจถูกมอบหมายให้ทำหน้าที่นี้ จึงหนีออกมาไม่ทันทั้งที่สามารถทำได้ ถือว่าเป็นฮีโร่ เพราะจากโครงสร้างนั้นชั้น 8 มีความซับซ้อน ค่อนข้างจะดับไฟยาก จึงต้องขอยกย่องผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน

ด้านนายพินิต กล่าวว่า ตอนนี้ทางเขตได้ปิดกั้นอาคารบริเวณชั้นบี 2 เนื้อที่ 80 ตารางเมตร และชั้น 8 ซึ่งมีเนื้อที่ 400 ตารางเมตร โดยห้ามใช้จุดดังกล่าว ขณะที่ส่วนอื่นๆ สามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าจุดเกิดเหตุ ไม่มีโอกาสเกิดเพลิงไหม้ซ้ำได้อีกแล้ว สำหรับชั้น 8 เป็นห้องพักผ่อนของเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่ห้องเก็บเอกสารตามที่เป็นข่าว

นายนพดล กล่าวว่า พื้นที่ซึ่งถูกสั่งห้ามใช้ จะใช้ได้เมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับทางเจ้าของอาคารส่งแบบแปลนที่แก้ไขเรียบร้อยส่งไปยังสำนักการโยธา โดยแบบแปลนนี้ต้องได้รับการยอมรับจากสถาบันที่เชื่อถือได้และมีมาตรฐาน ซึ่งทางโยธาฯ จะนำแบบแปลนมาวิเคราะห์เพื่อดูว่าจะอนุญาตให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวได้หรือไม่ต่อไป

ด้าน รศ.สิริวัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบโครงสร้างพบว่า อาคารมั่นคงแข็งแรงดี เพลิงไม่ได้กระทบโครงสร้างโดยตรง อีกทั้งเพลิงไหม้กินระยะเวลาสั้นๆ จึงมีเพียงคราบเขม่าควัน สามารถเปิดใช้งานตัวอาคารที่ไม่ได้รับความเสียหายได้ตามปกติ

ในส่วนของลูกค้าและห้างร้านที่มีทรัพย์สินติดค้างภายใน เจ้าหน้าที่ของเซ็นทรัลเวิลด์ได้ตั้งโต๊ะให้ลงทะเบียน โดยการนำบัตรจอดรถพร้อมบัตรประชาชน มาลงทะเบียนให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับยี่ห้อรถ รุ่น สี และหมายเลขทะเบียน และจุดจอดรถ หรือทรัพย์สินทึ่ติดค้างภายใน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบพื้นที่แต่ละชั้น เพื่อความปลอดภัยและจะแจ้งให้ทางลูกค้าและพนักงานทางร้านเข้าพื้นที่ได้ประมาณ 14.00 น. โดยจะมีเจ้าหน้าที่นำไปจุดที่ทรัพย์สินติดค้างอยู่ หรือที่จอดรถเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าและเจ้าของทรัพย์สิน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน