เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 มี.ค. ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภ.1) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และรองโฆษก ดีเอสไอ กล่าวภายหลังการประชุมประเมินสถานการณ์การเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายประจำวัน ว่า วันนี้ที่ประชุมได้สรุปตัวเลขของมวลชนที่อยู่ภายในวัดพระธรรมกาย โดยมีพระสงฆ์ ประมาณ 1,200 รูป มวลชน ประมาณ 1,000 คน ส่วนบริเวณตลาดกลางคลองหลวงมีพระสงฆ์ประมาณ 150 รูป และมวลชน ประมาณ 300 คน สำหรับตัวเลขที่ทางวัดพยายามนำเสนอว่า มีมวลชนรวมพระสงฆ์ ประมาณ 10,000 คนนั้น จากการบินตรวจสอบทางอากาศยังมีความเป็นไปได้ตามจำนวนที่ทางวัดกล่าวอ้าง

พ.ต.ต.วรณัน กล่าวต่อว่า สำหรับเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบริเวณตลาดกลางคลองหลวง เนื่องจากมีการข่าวว่าจะมีการย้ายจุดรวมพลไปยังตลาดป้าเช็ง ซึ่งอยู่ห่างจากตลาดกลางคลองหลวง 1 กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้สนธิกำลังกับทหารเพื่อเข้าตรวจตลาดดังกล่าว พบว่ามีพระสงฆ์ 2 รูป สามเณร 9 รูป ประชาชน 23 คน ชาวต่างด้าว 6 คน โดยแยกเป็นชาวกัมพูชา 1 คน และชาวพม่า 5 คน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาที่บก.ตชด.ภ.1 เพื่อซักถามและทำประวัติไว้ พร้อมออกคำสั่งห้ามเข้ามาปฏิบัติการในลักษณะที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่

รองโฆษก ดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เวลา 11.00 น.ของวันนี้ การปฏิบัติงานบริเวณตลาดกลางคลองหลวงจะมีความชัดเจนขึ้น เนื่องจากเจ้าคณะจังหวัดได้ออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร และเจ้าหน้าที่จะเข้าไปดำเนินการนิมนต์พระสงฆ์ออกจากพื้นที่ดังกล่าว

ส่วนความคืบหน้าหมายจับของพระสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักองค์กรสื่อสารวัดพระธรรมกายนั้น ตั้งแต่คดีวันที่ 16 ก.พ. จนถึงวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้แจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามไว้ 2 คดี คือความผิดในเรื่องของเฟซบุ๊กที่มีการเผยแพร่ข้อความ และความผิดในพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยเบื้องต้นจะทำการออกหมายเรียกก่อน หากพระสนิทวงศ์ไม่มาตามหมายเรียก ก็จะดำเนินการขอหมายจับต่อไป อีกทั้ง ยังมีคดีที่เกิดในพื้นที่สภ.คลองหลวง 31 คดี ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวกับการขัดคำสั่งทั้งหมด 19 คดี เป็นคดีอาญา 1 คดี และคดีอื่นๆ จากทางการข่าวเชื่อว่าพระสนิทวงศ์ยังคงอาศัยอยู่ภายในวัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน