เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันเดียวกันนี้กระทรวงมหาดไทยได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)รับทราบ เพราะนายกฯสั่งให้ 3 กระทรวงหลัก คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพย์พยากรณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดูแล ซึ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบในการบริหารจัดการน้ำ และการพร่องน้ำ เพราะขณะนี้น้ำจากภาคเหนือได้ไหลลงพื้นที่ภาคกลางตอนบน และภาคกลางแล้ว รวมถึงเมื่อมีปริมาณฝนที่ตกลงมาประกอบกับน้ำทะเลหนุน ทำให้การระบายน้ำต้องเพิ่มความระมัดระวัง เพราะน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา หากปล่อยเกินกว่า 1,000-2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำ ตั้งแต่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาลงมา แต่เชื่อว่าสถานการณ์น้ำ ยังสามารถรับมือได้ เป็นเพียงน้ำท่วมฉับพลัน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินไปแล้ว 38 จังหวัด แต่ตอนนี้เหลือเพียง 9 จังหวัด คือ กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ พังงา อุทัยธานี พะเยา และ ชัยนาท โดยในส่วนของการใช้งบประมาณช่วยเหลือ ก็ใช้งบของจังหวัด โดยหากไม่พอสามารถของบกลางช่วยเหลือได้
เมื่อถามถึงเรื่องการแต่งตั้งรัฐบาลส่วนหน้า พล.อ.อนุพงศ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการเสนอเข้าที่ประชุมครม.ให้พิจารณารายชื่อหรือไม่ และไม่ทราบว่าจะมีคนของกระทรวงมหาดไทยเข้าด้วยหรือไม่ แต่เห็นว่าหากมีผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าไปร่วมทำงานในครม.ส่วนหน้าก็จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะอย่างน้อยนายกรัฐมนตรีเคยบอกว่าภาพลักษณ์ของครม.ส่วนหน้าดีขึ้น เพราะต่างชาติจะมองว่าไม่เพียงแต่การใช้ทหารเข้าไปทำงานเท่านั้น แต่ยังมีตัวแทนของรัฐบาลที่เข้าไปร่วมทำงานด้วย
