เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 6 มี.ค. ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภ.1) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 เดินทางมาประชุมประเมินสถานการณ์และการวางแนวทางปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักษ์ศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานโฆษก ดีเอสไอ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักคดีพิเศษภาค พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ ในฐานรองโฆษก ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่ทหาร กรมการปกครอง และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)

ทั้งนี้ คาดว่า ในที่ประชุมจะมีการหารือถึงการปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย บริเวณใกล้เคียงพื้นที่โซนเอ ซึ่งเป็นพื้นที่วัด จำนวน 196 ไร่ และเป็นพื้นที่สำคัญที่ดีเอสไอยังเชื่อว่าพระธัมมชโยพักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว

ต่อมาเวลา 10.30 น. ที่บก.ตชด.ภ.1 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางมาเข้าร่วมประชุมประเมินสถานการณ์และปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย โดยกล่าวก่อนเข้าร่วมประชุม ว่า สำหรับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ขณะนี้มีความพร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของดีเอสไออยู่แล้ว เพื่อปฏิบัติการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย และยังไม่มีความจำเป็นจะต้องเพิ่มกำลังแต่อย่างใด ส่วนในช่วงบ่ายวันนี้ การปฏิบัติการจะมีความชัดเจนเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ตนกำลังจะขึ้นไปหารือในที่ประชุม

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีพระธัมมชโยถูกถอดสมณศักดิ์นั้นเป็นขั้นตอนที่เราต้องทยอยทำ และเชื่อว่าจะทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ง่ายขึ้น ส่วนประเด็นที่มีการเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้กฎหมายมาตรา 44 นั้น ตนมองว่ามาตรา 44 เป็นตัวช่วยที่ดี ซึ่งในทุกคดีทุกเรื่องที่ผ่านมารัฐบาลใช้มาตรา 44 แก้ปัญหา อีกทั้งเชื่อว่ามาตรา 44 จะต้องถูกนำมาใช้อีกเยอะในการบริหารงานของรัฐบาล ดังนั้นมาตรา 44 จึงเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดแล้ว จะมาให้ยกเลิกสิ่งที่ถูกต้องได้อย่างไร ตนว่าพวกที่เรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 44 เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย ต้องกลับไปทบทวน กลับไปคิด และไตร่ตรองดูว่ารัฐบาลเขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ใช้ในสิ่งที่ผิด จะไปให้ยกเลิกได้อย่างไร ต้องไปดูว่าใครผิด อย่างไรก็ตาม มาตรา 44 ยังสามารถแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วและดีขึ้นด้วย

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นักสิทธิมนุษยชนมองว่ารัฐบาลใช้กฎหมายเกินขอบเขต พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า พวกเขามีความคิดอย่างไร มีความคิดเหมือนพวกเราหรือไม่ ถ้ามีความคิดเหมือนพวกเราก็ดี คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนก็ดี เอนจีโอก็ดี บางครั้งบางเรื่องต้องมีความเป็นกลางบ้าง

เมื่อถามว่า ยังเชื่อหรือไม่ว่าพระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย ผบ.ตร. กล่าวว่า จะอยู่หรือไม่ ไม่รู้ แต่เรื่องพวกนี้มันควรจะจบได้แล้ว ตนไม่ได้อยากมีปัญหากับพวกศิษยานุศิษย์และสาวกของวัดพระธรรมกาย แต่อยากให้ดูว่าอะไรผิดอะไรถูก ทั้งนี้ สรุปว่างานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา

เมื่อถามถึงกรณีที่ดีเอสไอตรวจพบพระสงฆ์มีเงินในบัญชีมากกว่า 10 ล้านบาท ทางตร.จะเข้าไปร่วมตรวจสอบด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เขาดูหมดทุกมิติอยู่แล้ว พระสงฆ์อะไรจะมีเงินเยอะขนาดนั้น ส่วนกรณีที่พบความผิดปกติเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองภาคอีสานหรือไม่นั้น เขามีเครือข่ายเยอะ ในอดีตหลวงปู่สดก็ไม่ได้สอนวิถีชีวิตอย่างนี้ ต้องไปถามพระสงฆ์ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพระธัมมชโย หรือก่อนหน้านั้นสัก 10 ปี ว่าแนวคิดเป็นอย่างไร








Advertisement

“ผมก็ไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไร ว่าบิดเบือทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะนหรืออะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่พระธัมมชโยท่านทำนำมาจากไต้หวันโมเดลเป็นอย่างนั้น ผมก็ไม่ได้เก่งเรื่องพระ เรื่องเจ้า แต่ต้องไปถามพวกพระสงฆ์ที่รุ่นราวคราวเดียวกันกับพระธัมมชโย หรืออายุมากกว่าท่านว่าเขาคิดยังไง ไม่มีใครรู้ดีกว่าในคณะสงฆ์หรอก และจะหูตาสว่าง” ผบ.ตร. กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน