คมนาคม แจงรับรถเมล์ขาดทุนมานาน เสียงอ่อยเล็งทบทวนแผนขึ้นราคาอีกรอบ!

คมนาคม แจงรับรถเมล์ขาดทุนมานาน เสียงอ่อยเล็งทบทวนแผนขึ้นราคาอีกรอบ!

เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา รถโดยสารของค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รถร่วม ขสมก. รถทัวร์ รถตู้โดยสาร และรถสองแถว มีการปรับขึ้นค่าโดยสารว่า ได้มอบให้ กรมการขนส่งทางบกและองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ไปชี้แจงขั้นตอนความจำเป็นในการปรับขึ้นราคาให้ศาลปกครองกลางรับทราบแล้ว
ทั้งนี้ การเป็นการปรับขึ้นค่าโดยสารครั้งนี้เป็นตามมติคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางในช่วงเดือนธ.ค.2561

เนื่องจากผู้ประกอบการมีภาระต้นทุนเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรถโดยสารที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีนั้นจะมีต้นทุนเอ็นจีวีเพิ่มสูงขึ้นอีก กิโลละ 3 บาท เพราะตั้งแต่เดือน พ.ค. นี้ ปตท. จะปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซเอ็นจีวีจากก.ละ 16.01 บาท เป็น 19.01 โดยจะทยอยปรับขึ้นไตรมาสละ 1 บาท ตามมติ กบง. ทำให้รถเมล์ ขสมก.ร่วมบริการ จะมีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ผลการศึกษาเรื่องต้นทุนค่าโดยสารของ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ยังมีข้อสรุปให้มีการปรับขึ้นค่าโดยสาร รวมทั้งยังมีภาระค่าแรง ค่าซ่อมที่เพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่รถเมล์โดยสารร่วมบริการ ก็มีต้นทุนในการจัดหารรถใหม่มาวิ่งให้บริการด้วย

“การปรับขึ้นค่าโดยสารรถโดยสารครั้งนี้ คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ได้คำนึงถึงปัจจัยต่างๆอย่างดีแล้ว สำหรับผู้โดยสารทั่วไป ก็ต้องขอความเป็นใจเพราะไม่ได้ปรับราคามานานแล้วจนทำให้ผู้ประกอบการต้องรับภาระขาดทุนในช่วงที่ผ่านมา”

นายอาคมกล่าวว่า ในส่วนของรถเมล์ ขสมก. นั้นจะเห็นว่าในการปรับขึ้นราคาในวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่าน ซึ่งเป็นการปรับราคาระยะที่ 1 นั้น มีการปรับขึ้นค่าโดยสารในอัตราที่ต่ำ เท่ากับ มติคณะกรรมการกลางเมื่อปี 2558 เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ส่วนการปรับขึ้นค่าโดยสารระยะที่ 2 ของขสมก. ในวันที่ 22 เม.ย. 2563 นั้น อาจจะต้องมีการทบทวนกันใหม่อีกครั้ง โดยต้องดูว่าราคาเชื้อเพลิงในปีหน้าเป็นอย่างไร หากปรับลดลง อาจจะไม่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นระยะ 2 ซึ่งอาจจะนำไปสู่การทบทวนมติ คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางได้

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมว.คมนาคมกล่าวถึงกรณีที่ ปตท. เตรียมยกเลิกอุดหนุนราคาก๊าซเอ็นจีวีในเดือนพ.ค.ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรถเมล์ ขสมก.ร่วมบริการ ว่า ให้ ขสมก. ไป หารือกับ ปตท. เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องราคาเอ็นจีวี เนื่องจากผลการประมูลก๊าซธรรมชาติในแหล่งบงกชครั้งใหม่นั้นพบว่ามีราคาถูกลงทำให้ต้นทุนก๊าซเอ็นจีวีของแหล่งบงกชถูกลงด้วย

นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผอ. ขสมก.กล่าวว่าเร็ว ๆ นี้จะไปหารือกับ ปตท. เพื่อขอให้ ปตท. พิจารณาขยายระยะเวลาการอุดหนุนราคาขายปลีกก๊าซเอ็นจีวีให้กับร่วมเมล์ขสมก.ร่วมบริการ (เอกชน) ส่วนรถเมล์ ขสมก. นั้น ปกติก็ไม่ได้รับการอุดหนุนจาก ปตท.เนื่องจากได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลอยู่แล้ว ส่วนการปรับขึ้นค่าโดยสารระยะที่ 2 ในวันที่ 22 เม.ย.2563 นั้น หากคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางมีการทบทวนหรือมีมติใหม่ให้ชะลอปรับขึ้นค่าโดยสาร ขสมก.ก็ต้องทำตาม ส่วนการปรับขึ้นค่าโดยสารระยะที่ 1 คงต้องเดินหน้าต่อไป จนกว่าจะมีคำศั่งศาลปกครองเป็นอย่างอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการปรับขึ้นค่าโดยสารเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมาว่ามีการปรับขึ้นค่าโดยสารดังนี้ การปรับขึ้นค่าโดยสารของ ขสมก. จะทยอยปรับเป็น 2 ช่วง เพื่อบรรเทาผลกระทบให้ผู้โดยสาร โดยจะทอยปรับเป็น 2 ครั้ง คือ ปรับครั้งแรก 22 เม.ย. 2562 และปรับครั้งที่ 2 ในวันที่ 22 เม.ย.2563

สำหรับการปรับราคาค่าโยสารวันที่ 22 เม.ย.ปีนี้คือ
1รถเมล์เก่าของ ที่เป็นรถเมล์ร้อนจะปรับขึ้นจาก 6.50 บาท เป็น 8 บาท และช่วงวันที่ 22 เม.ย. 2563 จะปรับขึ้นอีกครั้งเป็น 10 บาท
2.รถเมล์แอร์ (ครีมน้ำเงิน) จะปรับขึ้นจากขึ้นจากเดิม 10-18 บาทเป็น 12-20บาท และช่วงวันที่ 22เมย 2563 จะปรับขึ้นอีกครั้งเป็น 13-21บาท
3.ส่วนรถเมล์แอร์ยูโรจะปรับขึ้นจาก11-23บาท เป็น13-25บาทและช่วงวันที่ 22เมย 2563จะปรับขึ้นอีกครั้งเป็น 14-26 บาทและ4.รุโดยสารเอ็นจีวีใหม่ จะปรับขึ้นจาก 11-23 บาท เป็น 15,20,25บาท โยผู้โดยสารที่ใช้บริการรถขึ้นทางด่วนจะต้องชำระค่าธรรมเนียมค่าโดยสารเพิ่มอีกคนละ 2 บาท

สำหรับรถเมล์ร่วม ขสมก ซึ่งเป็นรถของเอกชนจะปรับขึ้นค่าโดยสารเพียงครั้งเดียวในวันที่ 22 เม.ย. นี้แบบเต็มเพดานตามที่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางกำหนด