แม่น้องรามร้องไห้ใจจะขาด หลังทราบข่าวรถบัสทัศนศึกษาตกเหว เผยลูกชายพูดเป็นลาง “บอกว่าไปแล้วจะไม่ได้กลับมา” ด้าน สพม.25 เร่งให้การช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บเต็มที่ ขณะที่จังหวัด สนธิกำลังร่วม กกล.รส. ตรวจเข้มการให้บริการของรถบัสนำเที่ยวทุกคัน ‘ปียิน’ ย้ำชัดตรวจทั้งรถและคน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 มี.ค.2560 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพบรรยายกาศภายในหมู่บ้านบ้านพังทุย ต.พังทุย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น หลังเกิดอุบัติเหตรถบัสโดยสารนำเที่ยวหมายเลขทะเบียน 30-1027 อุบลราชธานี เสียหลักพลิกคว่ำตกเหว บริเวณทางโค้งตรงข้ามศาลเจ้าพ่อโทน ช่วง กม.43 -445 ม.4 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ 6 ราย โดยเป็นอาจารย์ 4 ราย และนักเรียน 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยรถบัสนำเที่ยวคันดังกล่าวรับคณะครูและนักเรียน จากโรงเรียนพังทุยพัฒนศึกษา เดินทางไปทัศนศึกษาและไหว้พระในพื้นที่จังหวัดทางภาคตะวันออก โดยออกเดินทางออกจาก จ.ขอนแก่น เวลา 21.00 น. ของคืนที่ผ่านมา และเกิดอุบัติเหตุในช่วงเช้าของวันนี้

โดยทันทีที่ทีมข่าวเดินทางไปถึงที่บ้านเลขที่ 124/1 ม.6 ต.พังทุย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ นายกิติพงษ์ ว่องไว หรือ น้องราม นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนพังทุยพัฒนศึกษา ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ของผู้เสียชีวิต พบว่ามีชาวบ้านจำนวนมากต่างมาให้กำลังใจและร่วมกันจัดเตรียมสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ สำหรับการรับศพน้องราม กลับบ้านเกิด โดย นางพัชฎาพร จันทร์พิทักษ์ อายุ 39 ปี แม่ของน้องราม และนางบานเย็น จันทร์พิทักษ์ ยายของน้องราม นอนกอดเสื้อผ้าของลูกชาย และร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ด้วยความเสียใจกับการสูญเสียกะทันหันเช่นนี้

นางพัชฎาพร จันทร์พิทักษ์ บอกว่า ลูกชายได้มาขออนุญาตไปทัศนศึกษากับเพื่อนๆในโรงเรียน โดยมีกำหนดการเดินทาง เมื่อคืนที่ผ่านมา ในช่วงเวลา 21.00 น. โดยก่อนที่จะเดินทางไปนั้น น้องราม ได้มาลาแม่ โดยบอกว่า “วันนี้แม่สวยจัง ผมหล่อมั้ย ผมไปแล้วจะไม่ได้กลับมาหาแม่แล้วนะ” ก่อนที่จะเดินทางไปขึ้นรถที่โรงเรียน ซึ่งตนเองก็รู้สึกเอะใจอย่างมาก เนื่องจากลูกพูดเป็นลางไม่ดี จากนั้นก็เข้านอนตามปกติ จนกระทั่งเวลา 04.00 น. ที่ผ่านมา ผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศทางหอกระจายข่าวและเสียงตามสายของหมู่บ้าน บอกว่า รถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนประสบอุบัติเหตุ จึงรีบไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน เพราะนักเรียนของโรงเรียนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้เดินทางไปด้วยจำนวนมาก

“ตอนที่เดินทางไปบ้านผู้ใหญ่บ้านก็ทำใจไว้แล้ว เพราะรู้สึกว่าลูกจะไม่ได้กลับมาบ้านแล้ว เมื่อได้เห็นรายชื่อผู้เสียชีวิตก็ตกใจและเสียใจอย่างมาก ทั้งนี้ผู้เสียชีวิต 2 คนนั้น 1 คนเป็นลูกชายของตน และอีก 1 คน เป็นนักเรียนที่อาศัยอยู่อีกหมู่บ้าน ซึ่งขณะนี้ครอบครัวได้เดินทางไปรับศพลูกชายกลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนาแล้ว คาดว่าจะเดินทางมาถึงวัดประจำหมู่บ้านในช่วงเย็นวันนี้”

ในเวลาเดียวกัน นายเกียรติศักดิ์ หอมพิกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมที่ 25 หรือ สพม.25 ได้เดินทางมาพบกับคณะครูและนักเรียน ที่โรงเรียนพังทุยพัฒนศึกษา รวมทั้งการเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลดของคณะครู นักเรียนและคนในชุมชนอย่างมาก โดยทุกคนล้วนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ต่างพาร้องไห้ตลอดเวลากับเหตุการณ์สูญเสียที่เกิดขึ้นครั้งนี้

นายเกียรติศักดิ์ หอมพิกุล รอง สพม.25 กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า คณะครูที่เสียชีวิต ทั้ง 4 คนนั้น มีภูมิลำเนาอยู่ที่ขอนแก่น , มหาสารคาม , ร้อยเอ็ด และ อุดรธานี ซึ่งจากการประสานงานพบว่าญาติต่างต้องการนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา ขณะนักเรียนที่เสียชีวิต 2 คนนั้น นำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดในพื้นที่ ต.พังทุย ซึ่ง สพม.25 ยืนยันในการให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เต็มที่เนื่องจากเป็นโครงการทัศนศึกษาของโรงเรียนที่พาคณะครูและนักเรียนไปไหว้พระวัดเขาสุกิมและเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ โดยเกิดเหตุในช่วงที่กำลังเดินทางไป อย่างไรก็ดีได้มีการตรวจสอบสิทธิในด้านต่างๆของครูและนักเรียนที่เสียชีวิตทั้งหมดเพื่อเร่งให้การช่วยเหลือ ขณะที่นักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้เริ่มทยอยเดินทางกลับขอนแก่นแล้ว ก็จะได้รับการช่วยเหลือในด้านต่างๆ ด้วยเช่นกัน

ด้านนายปียิน ตลับนาค ปลัดจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองสนธิกำลังร่วมตำรวจและทหาร ในแผนการดำเนินงานของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ขอนแก่น ตรวจสอบรถบัสนำเที่ยวและรถบัสโดยสารทุกประเภทเพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยรถทุกคันที่วิ่งรับและส่งต้นทางหรือปลายทางที่ขอนแก่น จะต้องตรวจสอบสภาพรถในด้านต่างๆ ทั้งหมด โดยเน้นย้ำในเรื่องของคนขับว่า พร้อมต่อการให้บริการหรือไม่ เพราะบางครั้งรถพร้อมแต่คนไม่พร้อม หรือคนพร้อมแต่รถไม่พร้อม ทั้งหมดต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้นต่อจากนี้ไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน