สาวโวย ลั่นรถโดนยึดเป็น รถของกลาง แต่กลับพบเสื้อผ้าของคนอื่นในรถ แถมยังมีคนแอบเอาไปขับ ผบก.ลพบุรีเต้นสั่งสอบแล้ว ฮึ่มผิดจริงโดนวินัย-อาญาแน่

รถของกลาง / เมื่อวันที่ 28 เม.ย. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่มีการโพสต์ในโลกโซเชียลมีเดียจากสมาชิกเฟซบุ๊กชื่อ Bow Sunita กรณีที่รถยนต์ของตน ถูกยึดไว้เป็นของกลางในคดีที่สถานนีตำรวจ ซึ่งภายหลังตนได้ไปตรวจสอบอยู่บ่อยครั้ง กลับไม่พบรถของตนจอดอยู่ ต่อมาตนเดินทางมาตรวจสอบที่สถานีตำรวจอีกครั้ง พบว่าภายในรถของตนที่ถูกยึดนั้น มีเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายของบุคคลอื่น อยู่ภายในรถของตน ที่ สภ.ท่าหิน ภ.จว.ลพบุรี จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย ว่า

ตนได้รับรายงานจาก สภ.ท่าหิน ภ.จว.ลพบุรี ว่า รถยนต์คันดังกล่าวนั้นถูกตรวจยึดไว้ เพื่อเก็บรักษาไว้เพื่อเป็นของกลางในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดียาเสพติด โดยอยู่ในระหว่างที่ พนักงานสอบสวนรวบรวมกำลังพยานหลักฐาน และมีความเห็นในทางคดีเสนอต่อพนักงานอัยการ เพื่อยื่นฟ้องในชั้นศาลตามขั้นตอนของกฎหมาย

ซึ่งเก็บรักษารถยนต์ของกลางดังกล่าวไว้ภายในสถานีตำรวจ พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.สุนทร โตรอด ผบก.ภ.จว.ลพบุรี สั่งการให้มีตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยต้องรายงานผลการตรวจสอบให้ทราบภายใน 3 วัน เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

กับทั้ง พ.ต.อ.ณัชภูมิ วรรณวิไล ผกก.สภ.ท่าหิน มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากผลการตรวจสอบพบว่า พบว่ามีข้อบกพร่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินการในทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาดต่อไป จากการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่พบว่ารถยนต์ดังกล่าว เกิดการเสื่อมสภาพหรือความเสียหายแต่อย่างใด

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คงต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง หากพบข้อบกพร่องหรือเกิดการปล่อยปละละเลย ก็จะดำเนินการในทางวินัยและอาญากับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ทั้งนั้นต้องมีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยและการเก็บรักษาให้ดี มิใช่นำออกไปใช้หรือให้ผู้อื่นนำออกไปใช้โดยพลการ หากเกิดความเสียหายหรือของกลางสูญหาย ก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญากับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตามกฎหมายต่อไป

ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับและสั่งการมาโดยตลอด ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจหน้าที่ ประพฤติผิดในทางมิชอบ แสวงหา หรือปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย สร้างความเดือนร้อนแก่พี่น้องประชาชน

โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานด้วยความสุจริต ยุติธรรม ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุกแก่ประชาชน ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบของกฎหมาย และยังมีข้อสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วนให้ผู้บังคับบัญชาควบคุม เสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ตามคำสั่งที่ 1212/2537 ในการกวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติและพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด

หากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความพฤตินอกรีต หรือแม้กระทั่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ ให้ดำเนินทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี

ภาพจากเฟซบุ๊ก Bow Sunita

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน