กลัวถูกจับตาย! โจรไอ้โม่งปล้นทอง 2 ล้าน ห้างบิ๊กซีชิงมอบตัวแล้ว อ้างต้องใช้เงินเพราะติดหนี้พนันไฮโล 1 แสน ต้องหาเงินรักษาแม่ที่ป่วย เผยถูกกดดันอย่างหนัก กลัวถูกตร.วิสามัญจึงให้ญาติพาเข้ามอบตัว

กรณีคนร้ายใส่ชุดดำสวมเสื้อยืดแขนยาว และกางเกงยีนส์ขายาว สวมไอ้โม่งหมวกลายพรางทหาร ใช้ปืน ไม่ทราบชนิดและขนาด ชิงทรัพย์ห้างทองสุพัตราเยาวราช ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาสัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นร้านของดร.สะถิระ เผือกประพันธุ์ ว่าที่ ส.ส.เขต 8 ชลบุรี ได้ทองรูปพรรณเป็นสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 6 เส้น หนัก 3 บาท 21 เส้น และสร้อยคอหนัก 2 สลึง 32 เส้น รวม 59 เส้น น้ำหนักทั้งหมด 109 บาท มูลค่ากว่า 2,120,050 บาท ก่อนใช้ช่องทางท่อระบายน้ำข้างห้างหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น

โจรไอ้โม่งปล้นทอง / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 30 เม.ย. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.ชโลธร เปรมปรี ผกก.สภ.สัตหีบ. พล.ร.ท.จำรัส คุณสุพัตรา เผือกประพันธุ์ พ่อแม่ ดร.สะถิระ เผือกประพันธุ์ ว่าที่ ส.ส.เขต 8 ชลบุรี เจ้าของร้าน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมคดีชิงทรัพย์ ทองรูปพรรณ จำนวน 109 บาท ที่สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมนำตัวผู้ต้องหานำชี้ที่เกิดเหตุ เพื่อประกอบคำรับสารภาพ ที่ห้างทองสุพัตราเยาวราช ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

หลังเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหา นายศรชัย นิลสนธิ อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดพิจิตร พร้อมของกลางสร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท จำนวน 21 เส้น สร้อยข้อมือทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 6 เส้น และสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง จำนวน 32 เส้น รวมจำนวน 49 เส้น น้ำหนัก 109 บาท รวมมูลค่า 2,180,00 บาท และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟิลาโนสีแดง เลขทะเบียน จวฉ-469 ชลบุรี ที่ใช้ในก่อเหตุ

หลังจากแถลงข่าวเจ้าของร้านมอบช่อดอกไม้และเงินสด จำนวน 100,000 บาท เพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานจนสามารถจับกุมได้ พร้อมทั้งนำตัวผู้ต้องหาเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อทำแผนประกอบรับคำสารภาพท่ามกลางการเฝ้าดูของฝูงชนจำนวนมาก ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติเปิดเผยว่า หลังสืบทราบว่าหลังจากก่อเหตุหลบหนีไปกบดานที่จังหวัดพิจิตร ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ติดต่อให้มอบตัวและกดดันอย่างหนัก จนคนร้ายติดต่อขอเข้ามอบตัวที่สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากญาติพี่น้องของคนร้ายรู้จักกับตำรวจที่สภ.ภาชี

โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดตามท้องถนน ที่คนร้ายใช้หลบหนี จนทราบว่าคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟิลาโนสีแดง ทะเบียน จวฉ-469 ชลบุรี และสืบทราบจนถึงตัวผู้ต้องหา ทราบว่าหลบหนีไปที่จ.พิจิตร โดยนำของกลางทองคำหนัก 109 บาท อยู่ครบทั้งหมด โดยผู้ต้องหานำไปซุกซ่อนภายในบ้านพักเอื้ออาทร อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า สาเหตุที่ต้องก่อเหตุ เพราะติดหนี้การพนันไฮโลจนเงินหมด โดยเป็นหนี้เงินสด 100,000 บาท และนำรถกระบะของตนเองไปจำนำเพิ่มอีกมูลค่า 150,000 บาท ในเมืองพัทยา และอยากหาเงินก้อนไปอยู่กับแม่ที่จังหวัดพิจิตร รวมทั้งจะนำเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยโรคมะเร็ง ที่ต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก

ส่วนอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนบีบีกัน ที่ซื้อมาจากตลาดนัดเทพประสิทธิ์ เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อ 6 เดือนก่อน โดยหลังเกิดเหตุอาวุธปืนปลอมที่ใช้ในก่อเหตุ ขณะวิ่งหลบหนีตนทำปืนหลุดจากมือ ร่วงลงไปในร่องน้ำใกล้เคียงที่เกิดเหตุ

โดยถอดแผ่นป้ายทะเบียนรถทิ้ง บริเวณอ่างเก็บน้ำมาบประชันในพื้นที่เมืองพัทยา หลังเกิดเหตุหลบหนีไปอยู่ที่บ้านแม่ในจ.พิจิตร ก่อนจะเห็นตัวเองในข่าวจึงรับสารภาพกับญาติพี่น้องตนเองว่าเป็นคนที่ก่อเหตุ ก่อนจะติดต่อขอเข้ามอบตัวที่สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เพราะญาติพี่น้องรู้จักตำรวจที่สภ.ภาชี กลัวว่าตนจะถูกวิสามัญ

คุณสุพัตรา เผือกประพันธุ์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้อย่างรวดเร็ว และขอขอบคุณผู้บัญชาการทุกท่าน และชุดสืบสวน ที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วมาก ทำงานแค่ 2 วันก็จับได้แล้ว ซึ่งทางร้านก็เตรียมการติดลูกกรง เพื่อป้องกันการก่อเหตุเช่นนี้ขึ้นอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน