จับสาวไทยร่วมแก๊ง ขนยาข้ามชาติ ซุกยาเค 50 กิโลกรัม ในลำโพง ตร.วางแผนจับคาโกดังที่เชียงใหม่ รับเตรียมส่งออกทางบริษัท ส่งลูกค้าในไต้หวัน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 พ.ค. ที่โกดังสินค้า ถนนวงแหวนรอบกลาง ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. (ปป)/ ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผบก.ปส.3 แถลงจับกุม 1.นายภูสิงห์ ภูมิรุ่งวิกรัย อายุ 34 ปี 2.นายแยง ชิ คัล สัญชาติไต้หวัน อายุ 34 ปี 3.นายคาโอ วี ชิ สัญชาติไต้หวัน อายุ 32 ปี และน.ส.ศิริพร ศิริไพรวงศ์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดข้ามชาติรายสำคัญ

พร้อมของกลาง เคตามีน จำนวนประมาณ 50 กิโลกรัม กระเป๋าเสื้อผ้า จำนวน 1 ใบ ตู้ลำโพง จำนวน 5 ตู้ รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน งบ6668 เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน รถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นซิตี้ ทะเบียน งจ6518 เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน รถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ต8763 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันผลิตและมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขาย โดยผิดกฎหมาย”

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ตำรวจบช.ปส.และ ป.ป.ส.สืบทราบว่ามีนักค้ายาเสพติดชาวไต้หวันร่วมกับคนไทย ลักลอบส่งยาเสพติดโดยซุกซ่อนในเครื่องสำอาง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าไปไต้หวัน ผ่านบริษัทขนส่งสินค้า จึงร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ป.ป.ส. หน่วยปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา-ประจำจังหวัดเชียงใหม่ (DEA), หน่วยสืบสวนพิเศษไต้หวัน( MJIB TAIWAN) และหน่วยกำลังในพื้นที่ เพื่อวางแผนการสืบสวนติดตามพฤติการณ์จับกุม

ต่อมาเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวมีความเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ โดยพบปะกันหลายครั้งและแยกย้ายกัน ชุดสืบสวนจึงเฝ้าติดตามพฤติการณ์ จนกระทั่งในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. พบว่าน.ส.ศิริพรขับรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียนป้ายแดง ต8763 กรุงเทพมหานคร เข้าไปที่โกดังสินค้า อาคาร A ถนนวงแหวนรอบกลาง ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ และยกกระเป๋าลักษณะมีน้ำหนักลงจากรถและนำเข้าไปเก็บไว้ในโกดัง โดยมีนายภูสิงห์ คอยคุมเชิงอยู่ด้านนอก ต่อมามีนายแยง ชิ คัล และนายคาโอ เข้ามาที่โกดังครู่หนึ่งแล้วออกไป จึงเชื่อว่ามีการลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปเก็บในโกดัง

ชุดสืบสวนจึงจัดเจ้าหน้าที่ซุ่มพรางแฝงตัวอยู่ในพื้นที่เพื่อคอยสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลา จากนั้นในวันที่ 2 พ.ค. ชุดสืบสวนจึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจค้นโกดังสินค้า อาคาร A พบวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ชนิดผงสีขาว จำนวนประมาณ 50 กิโลกรัม อยู่ภายในโกดัง

สอบถามผู้ต้องหาทั้งสองผ่านล่ามแปล รับว่ายาเสพติดดังกล่าวเป็นของพวกตนและจะแบ่งบรรจุซุกซ่อนในตู้ลำโพง และนำส่งออกทางบริษัท รับส่งสินค้าไปไต้หวัน จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนฯ บก.ปส.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน