เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคุณลุงวัย 71 ปี ชาวบ้านอำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ชาวบ้านรู้จักกันดีต่างเรียกกันว่า “ลุงเช็ง” เป็นคนมีเสน่ห์ของแท้ ในทุกๆวันลุงเช็งและศรีภรรยา จะนำเรือโบราณ พานักท่องเที่ยวมาชมตลาดสามชุกร้อยปี โดยล่องเรือชมวิถีชีวิตริมน้ำท่าจีน และพาไปชมบ้านเรือนไทยของตัวเองที่เก่าแก่มานานกว่า 100 ปี ที่เปิดเป็นโอมสเตย์ และพิพิธภัณฑ์บ้านเรือนไทยสาคร ที่ถูกรวบรวมเรื่องราวในอดีตมาไว้ที่นี่ จนแทบไม่น่าเชื่อว่าที่สามชุกยังมีอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดไปเที่ยวชม

201609280108071-20160615150820

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังบ้านเรือนไทยสาคร ตั้งอยู่เลขที่ 13 หมู่ที่ 1 ต.สามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เป็นบ้านเรือนไทยหมู่ขนาดใหญ่ อยู่รวมกันหลายหลังเชื่อมต่อกันเป็นแนวยาวกว่า 16 หลัง มีความเก่าแก่อายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มของ นายสุจิตต์ เล่ห์จันทร์พงษ์ หรือ ลุงเช็ง อยากทำบ้านเรือนไทยสาครหลังนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว

201609280108072-20160615150820

เรือนไทยสาครแห่งนี้ เดิมเป็นบ้านของคุณแม่สาคร เล่ห์จันทร์พงษ์ (แม่ของลุงเช็ง) เดิมมีอาชีพขายข้าวและถ่านตลาดสามชุกในอดีต ภายในมีห้องจัดแสดงในอดีต อาทิ ร้านตัดผม ห้องฉายหนัง ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านโชห่วย ร้านซ่อมนาฬิกา ร้านกาแฟโบราณ ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า มีของเก่าโบราณให้ได้ชม ย้อนวันวานไปในอดีต มีมุมถ่ายรูปที่น่าสนใจมาก

201609280108074-20160615150820

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลุงเช็งเป็นที่รู้จักของชาวบ้านแถวนี้ เพราะลุงเช็งมีภรรยาถึง 4 คน ซึ่งอยู่ในครอบครัวเดียวกัน ใช้ชีวิตร่วมชายคาเดียวกันมานานกว่า 40 ปี โดยภรรยาของคุณลุงเช็งแต่ละคนก็ช่วยลุงเช็งทำมาหากิน ช่วยกันคิดริเริ่ม ทำบ้านเรือนไทยสาครหลังนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรม เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตและชมเรื่องราวในอดีต โดยก็ทำมาแล้วกว่า 10 ปี ซึ่งที่ผ่านมาก็มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนหมุนเวียนมาเรื่อยๆ

201609280118131-20160615150820

ลุงเช็ง เล่าว่า ตนมีภรรยา 4 คน ซึ่งอยู่กินกันอย่างเปิดเผย โดยภรรยาแต่ละคนจะเรียกกันว่า แม่ 1 แม่ 2 แม่ 3 แม่ 4 ที่ผ่านมาก็มีหลายคนถามว่า ใช้ชีวิตกันอย่างไร อยู่บ้านเดียวกัน เพราะบางคนก็ไม่เข้าใจ และเกิดความสงสัย ตนจึงอยากบอกว่า ตนโชคดีที่มีภรรยาดี และมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยภรรยาทั้ง 4 คน ก็รักกันเหมือนพี่น้อง ที่ผ่านมาไม่มีทะเลาะกันและยอมรับซึ่งกันและกัน โดยภรรยาแต่ละคนก็จะแบ่งหน้าที่กันทำ ช่วยเหลืองานกันในบ้าน

201609280108078-20160615150820

โดยแม่ 1 และแม่ 2 จะช่วยกันดูแลบ้านทำความสะอาดบ้าน เรื่องอาหารการกินหุงหาอาหาร ส่วนแม่ 3 และแม่ 4 จะช่วยกันเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบ้านเรือนไทยสาคร ทั้งรับนักท่องเที่ยว พาชม และบริหารจัดการ เรื่องโปรแกรมท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาก็มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้ ส่วนเรื่องที่ตนมีอายุ 71 ปี แต่หลายคนยังทักมายังดูหนุ่มแข็งแรง ตนก็ดูแลตัวเอง โดยจะออกกำลังกายทุกวัน ปลูกผัก ทำสวน และที่สำคัญคือ ทานน้ำกระชายดำเป็นประจำทุกวัน โดยตนเป็นคนทำเอง เอากระชายดำมาปั่นและคั้นน้ำสดๆ ก็ทานทุกวัน ตั้งแต่หนุ่มๆจนถึงปัจจุบัน

201609280118133-20160615150820

“หลายคนที่ถามถึงว่าทำไมมีภรรยาหลายคน ส่วนตัวก็อยากจะบอกว่า ผมก็ไม่ได้อยากให้ใครมาเอาแบบอย่างหรือทำตาม และผมก็ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไร เพราะครอบครัวแต่ละคนไม่เหมือนกัน ส่วนคนในครอบครัวของผมมีความรักและความเข้าใจกันดี เคารพในการตัดสินใจ ซึ่งกันและกัน โดยปัจจุบันภรรยา 4 คน และลูกๆรวม 5 คน ซึ่งก็โตมีงานมีการทำหมดแล้ว ทุกคนก็รักกันและเข้าใจกันดี และมาช่วยกันดูแลบ้านเรือนไทยหลังนี้ เป็นอย่างดี อยู่กันอย่างอบอุ่น มีความสุขดี” ลุงเช็ง กล่าว

201609280108073-20160615150820

ผู้สื่อข่าว ได้พูดคุยกับบรรดาภรรยาของลุงเช็งทั้ง 4 คน ซึ่งทุกคนเป็นคนน่ารัก และเปิดใจถึงเรื่องราวชีวิต ภรรยาคนที่ 1 นางสมทรง เชื้อสาคู อายุ 66 ปี กล่าวว่า ตนเป็นภรรยาคนแรกของลุงเช็ง ตอนแรกที่รับรู้ว่า ลุงเช็งมีภรรยาคนที่ 2 ก็รู้สึกโกรธเหมือนกัน แต่พอลุงเช็งพาแม่ 2 มาพบ ตนก็ใจอ่อนและก็เปิดใจพูดคุยกัน จึงยอมรับและตัดสินใจให้มาเป็นครอบครัวเดียวกัน ต่อมาพอมาถึงแม่ 3 แม่ 4 ตนก็ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรแล้ว พูดไปพลางหัวเราะ เพราะสามารถยอมรับได้ โดยความรู้สึกก็เอ็นดูน้องๆทุกคนเหมือนเป็นพี่น้องเป็นเพื่อนกันจริงๆ และอยู่ด้วยกันแบบสันติ ดูแลกันไป เปรียบเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ที่ผ่านมาก็มีหลายคนถามตนว่า รับได้อย่างไร ซึ่งตนคงให้ข้อคิดเห็นไม่ได้ เพราะแต่ละคนใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน และมีความคิดความรู้สึกไม่เหมือนกัน สำหรับตนลุงเช็งเป็นคนดี เป็นสามีและพ่อที่ดี ดูแลภรรยาและลูกๆดีทุกคน ให้ความรัก ความเอาใจใส่ ขยันทำมาหากิน มีความรับผิดชอบ จนสร้างฐานะมั่นคง ตนจึงพอใจแล้ว

201609280108077-20160615150820

ด้าน ภรรยาคนที่ 2 นางแฉล้ม หนูทอง อายุ 62 ปี กล่าวว่า ตนก็รู้สึกว่าครอบครัวของพวกเราอบอุ่น ช่วยกันดูแลกันไป ช่วยกันทำมาหากิน ไม่ได้มีเรื่องทะลาะวิวาท หรือเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ และแม่หนึ่งก็ดูแลตนดีมาโดยตลอดเปรียบเหมือนพี่สาวคนหนึ่ง

201609280118132-20160615150820

ภรรยาคนที่ 3 นางคำ แสนปงผาบ อายุ 58 ปี กล่าวว่า ตนเองก็มีหน้าที่เป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ ของบ้านเรือนไทยสาคร เวลาใครมาเที่ยวบ้านเรือนไทยสาคร ก็จะคอยพาชมและดูแล นักท่องเที่ยว ซึ่งภรรยาของลุงเช็งแต่ละคนก็มีการแบ่งหน้าที่กันไป ช่วยกันทำมาหากิน ตลอดระยะที่อยู่ด้วยกัน จึงรู้สึกอบอุ่น

ส่วน ภรรยาคนที่ 4 นางอมรรัตน์ เนียมดี อายุ 46 ปี กล่าวว่า ตนเป็นภรรยาคนที่ 4 ตอนที่เข้ามาที่บ้านใหม่ๆก็รู้สึกกดดัน แต่ พี่ๆทุกคนก็ไม่ได้ว่าอะไร มีแต่ให้ความรัก ความเมตตา กับตนเสมอมา ตนมีหน้าที่เป็นมัคคุเทศน์พาชมบ้านเรือนไทยสาคร โดยจะไปพบปะกับนักท่องเที่ยวที่ตลาดสามชุก และชักชวนมาเที่ยวที่บ้าน โดยลุงเช็งจะเป็นคนขับเรือ พอมาถึงบ้านก็จะมีพี่ๆ อีกสามคนช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาก็ช่วยกันทำมาหากิน ทุกคนก็รักใครกันดี ไม่เคยทะเลาะกัน เวลาใครคนใดคนนึงไม่อยู่บ้าน ก็จะคิดถึงกัน เป็นห่วงเป็นใยกัน เหมือนเป็นพี่น้องกัน เหมือนถูกชะตากัน จะว่าไปเหมือนบุพเพสันนิวาศให้พวกเราได้มาใช้ชีวิตอยู่รวมกันได้ และอยู่ด้วยกันมีความสุขดี

ด้านลูกชายลุงเช็ง กล่าวว่า ครอบครัวเราอยู่กันแบบมีความสุขดี ทุกคนให้ความเคารพซึ่งกันและกัน พ่อเป็นเสาหลักของครอบครัวดูแลทุกคนเป็นอย่างดี หลายคนอาจมองแตกต่างกันไป ก็แล้วแต่มุมมอง แต่คนในครอบครัวของพวกเรามีความเข้าใจและรักกันดี เป็นครอบครัวที่อบอุ่น

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้ซึ่งได้มาเที่ยวชมที่บ้านเรือนไทยสาครแห่งนี้ ได้ กล่าวว่า ตนในฐานะผู้ชาย พอมาได้ฟังเรื่องราวของลุงเช็งแล้ว ก็ได้แอบแซวขนานนามให้ไปแล้ว ว่านี่แหละบ้านขุนแผนเมืองสุพรรณตัวจริงเลย เพราะลุงเช็งใช้ชีวิตกับภรรยาทั้งสี่คนที่บ้านเรือนไทยหลังนี้ เป็นวิถีชีวิตมานานแล้ว และทั้งหมดก็ช่วยกันพัฒนาบ้านเรือนไทยอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ให้กลับมามีชีวิตชีวา เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมเรื่องราวในอดีตให้ชวนถวิลหา ได้อย่างน่าสนใจ มีมุมถ่ายรูปมากมาย เหมาะแก่การมาท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาเที่ยวกัน ส่วนเรื่องลุงเช็งมีภรรยา 4 คน คงไม่ขอออกความเห็น เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ สำหรับตนขอมีภรรยาแค่คนเดียวพอ ไม่กล้า เหมือนลุงเชง นายวีระศักดิ์กล่าวพร้อมหัวเราะ

นางธัญภา นิโครธานนท์ ผอ.ททท.สำนักงานสุพรรณบุรี กล่าวว่า บ้านเรือนไทยสาครแห่งนี้ เป็นบ้านเรือนไทยมีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ที่อยู่ริมน้ำท่าจีน โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวที่ตลาดสามชุก และเชื่อมโยงมาเที่ยวต่อที่บ้านเรือนไทยสาคร โดยมีการล่องเรือชมวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน สัมผัสวิถีชีวิตริมน้ำและมาชมความดั้งเดิมของบ้านเรือนไทยหมู่ ที่ด้านในเก็บรวบรวมเรื่องราวในอดีตจนถึงปัจจุบันไว้อย่างน่าสนใจ

สำหรับผู้ที่สนใจมาท่องเที่ยวบ้านเรือนไทยสาครเรือนไทยสาคร สามารถนั่งเรือเอี้ยมจุ๊นโบราณ ชมบรรยากาศสองฝั่งแม่น้ำท่าจีน แวะเยี่ยมชมเรือนไทยสาคร สัมผัสวิถีชีวิตแบบไทยๆ โดยไปขึ้นท่าเรืออยู่ที่ ซอย 3 สามชุกตลาดร้อยปี ใช้ เวลาไป-กลับประมาณ 40 นาที เพียงท่านละ 50 บาท ติดต่อ 086-751-2686 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุพรรณบุรี 035-525-880, 035-525-867

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน