เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 มี.ค. ที่สำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พ.ต.ท.อุทัย แววไทสงค์ พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า อ.คลองหลวง นำพระสงฆ์วัดพระธรรมกาย จำนวน 10 รูป ส่งฟ้องต่อสำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี หลังจากทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อพระสงฆ์วัดพระธรรมกาย ทั้งหมด 14 รูป ที่ขัดคำสั่งไม่มารายตัวต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ

โดยในวันนี้ทางพระสงฆ์ทั้ง 10 รูป เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเอาไว้ คงเหลือเพียง พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา และพระทัตตชีโว หรือเผด็จทตตชีโว ที่อ้างว่าอาพาธไม่สามารถมารับทราบข้อกล่าวหาได้ และอีก 2 รูปที่ไม่ได้ทางมาคือ พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ และ พระครูใบฎีกา อำนวยศักดิ์ มุนิสโก ซึ่งทั้ง 2 รูป จะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกับ พระทัตตชีโว อีกครั้งในภายหลัง

โดยพระสงฆ์วัดพระธรรมกาย ที่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวที่สำนักงานอัยการจังหวัดธัญบุรี ประกอบไปด้วย 1.พระปลัดสุธรรม สุธัมโม หรือพระวิเทศ ภาวนาจารย์ 2.พระครูถวัลศักดิ์ ยติสโก 3.พระครูสังฆรักษ์ อนุรักษ์ โสตถิโก หรือ พระครูแอ 4.พระสนิทวงศ์ วุฆฒิวังโส 5.พระมหานพพร ปุญญชโย6.พระภาสุระ ทนตมโน(ใจวงศ์)7.พระนพดล สิริวโส8.พระมหาบุญชัย จารุทัตโต 9.พระครูสุวิทย์ สุวิชชาโก และ 10.พระแสนพล เทพเทพา หรือ สิบเอกแสนพล เทพเทพา

โดยมีนายปัญญา ถาวรอัครนิล ทนายความผู้ดูแลพระสงฆ์วัดพระธรรมกายทั้งหมด เดินทางดูแลด้านคดีความ ซึ่งบรรยากาศมีกองทัพสื่อมวลชนมารอทำข่าวจำนวนมากภายหลังจากการรายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้วนั้น ทางด้านพระสงฆ์ทั้งหมดเดินทางกลับในทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนแต่อย่างใด

ด้านนายปัญญา ถาวรอัครนิล ทนายความผู้ดูแลพระสงฆ์วัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า ดีเอสไอมีหมายให้พระทั้ง 14 รูป มารายงานตัวในวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา แต่พระสงฆ์ทั้ง 14 รูป ไม่ทราบว่ามีหมายเรียก จึงไม่ได้มารายงานตัว ซึ่งพอเมื่อไม่มารายงานตัว ทางดีเอสไอก็ไปแจ้งความที่สภ.คลองห้า ให้ดำเนินคดีในข้อหาขัดคำสั่งไม่มารายงานตัวเท่านั้นเอง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องแล้วก็ดำเนินการสอบสวน และส่งสำนวนมาที่อัยการจังหวัดธัญบุรีแล้วอัยการก็รับเรื่องไว้

และในวันนี้พระตั้ง 10 รูปที่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ก็ได้ร้องขอความเป็นธรรมให้สอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นของการส่งหมายให้พระทั้ง 14 รูป โดยให้ที่ใดส่งให้ท่านรู้หรือไม่หรืออย่างไรเท่านั้นเอง

“หากเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติต่อพระสงฆ์และศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายทั้งหลายผิดแผกแตกต่าง จากคดีอื่นมันก็เหมือนเป็นการกดดันวัดพระธรรมกาย เพราะฉะนั้นทำอะไรทำให้เหมือนกัน ทุกอย่าง คนอื่นทำอย่างไรได้ ท่านก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเราด้วย ในเมื่อเรามารายงานตัวตามที่ท่านมีหมายท่านก็ต้องปล่อยตัว เหมือนอัยการเช่นกัน ซึ่งเราไม่มีพฤติกรรมในการหลบหนี พระทุกรูปยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ซึ่งต่อจากนี้ทางพนักงานอัยการจะมีความเห็นสั่งฟ้องเมื่อไหร่ คงต้องการสอบสวนและมีการสรุปสำนวนอีกครั้งแต่ไม่รู้เมื่อไหร่” นายปัญญา กล่าว

ในส่วนของหลวงพ่อธัมมชโย นั้นท่านก็ต้องการมอบตัว แต่ก็ด้วยติดเหตุอะไรบางอย่าง จึงไม่สามารถมอบตัวได้ในเวลานี้ ซึ่งจะมอบตัวเมื่อไหร่ก็ได้ มันเป็นสิทธิของท่านเนื่องจากคดีมีอายุความตั้ง 15 ปี

ส่วนที่วัดธรรมกาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะพระวินยาธิการ นำโดยเจ้าคณะอำเภอคลองหลวง โดยคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจเยี่ยมญาติโยมที่มาพักค้างปฏิบัติธรรมและนำสวดธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร ร่วมกับคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายที่บริเวณปะรำพิธีข้างหอฉันคุณยายอาจารย์ฯ เพื่อดูแลความเรียบร้อยภายในวัดพระธรรมกาย โดยมีพระมหานพพร ปุญฺญชโย ผู้ช่วยผอ.สื่อสารองค์กร ถวายการต้อนรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้มีมวลชนทั้งหมดภายในวัดธรรมกาย พระสงฆ์สามเณรอยู่ประจำภายในวัด 800 รูป ฆราวาสลูกศิษย์ 800 คน โดยมวลชนที่มาสวดมนต์ธรรมจักรกัปปวัตตนสูตรจะอยู่บริเวณรัตนวิหารคตฯ พระสงฆ์ 80 รูป ฆารวาสลูกศิษย์ 500 คน

ต่อมาเวลา 14.00.น. ที่ตชด.ภ.1 ภายหลังการประชุมประเมินสถานการณ์วัดพระธรรมกาย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า วันนี้ได้เพิ่มชุดทำงานจาก 3 หน่วยงานเป็น 4 หน่วยงาน คือ ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี สำนักพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี รวมถึงได้แต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชุดทำงานด้วย ซึ่งจะเพิ่มเข้ามาเพื่อดูแลประชาชน

ส่วนการประชุมเมื่อวานที่ผ่านมา ที่พระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ออกหนังสือเชิญ รักษาการเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส และไวยาวัจกร วัดพระธรรมกายเข้าประชุม เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ ขอความร่วมมือกับวัดพระธรรมกาย ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง อุปกรณ์ต่างๆที่กีดขวางให้สิ้น และได้อนุญาตให้วัดสามารถจัดกิจกรรมได้ แต่อย่าทำให้เกิดการชุมนุมส่อไปถึงการปลุกระดมมวลชน

“สำหรับเมื่อวานที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษนำอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน บินสำรวจพื้นที่โดยรอบวัดพระธรรมกาย เพื่อดูแลรักษาความเรียบร้อย ซึ่งที่ประตู 4 บริเวณที่ทหารเผชิญหน้ากับพระสงฆ์ และลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ยังคงพบว่ายังไม่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางออกจากพื้นที่ และยังพบประชาชนที่อยู่บริเวณนั้น 50 คน โดยขณะนี้มอบหมายให้ผู้ประสานงาน ประสานไปยังวัดแล้วให้วัดรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง สแลน ออกโดยเร็ว รวมทั้งเร่งถมคูน้ำที่อยู่บริเวณใกล้กับอาคารบุญรักษาด้วย เพราะชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน” พ.ต.ต.วรณัน กล่าว

ทั้งนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาน.ส.ลีลาวดี วัชโรบล อดีตนักการเมือง ปี 2528 ลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่กองบังคับการปราบปรามเพิ่มอีก 1 คดี ตามมาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น ขณะที่ในส่วนของยอดการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้อง มีทั้งหมด 46 คดีทั้งหมด เป็นคดีในความรับผิดชอบของกองปราบ 4 คดี สภ.คลองหลวง 28 คดี และสภ.คลอง 5 อีก 14 คดี ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน