ธนาธร ลั่นไม่เห็นด้วยมติศาลรธน. ปลุกตรวจสอบองค์กรอิสระ เปิดโปงเผด็จการชั่วร้าย ยันเดินหน้าตั้งรัฐบาล-เป็นนายกฯ เย้ยคสช.ขาลงดิ้นเฮือกสุดท้าย ขวางเข้าสภา ส.ส-ปชช.นับร้อยแห่หนุน เชียร์ลั่นสู้ๆ สุดฮึกเหิม

จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ 9:0 รับพิจารณาคุณสมบัติ นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และมีมติ 8:1 สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ตามที่กกต.ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูวินิจฉัย คุณสมบัติผู้สมัครส.ส.ของนายธนาธร กรณีถือหุ้นสื่อ ตามมาตรา 98 (3) ประกอบมาตรา 101 (6) ของรัฐธรรมนูญ 2560 นั้น

เมื่อเวลา 19.00 น วันที่ 23 พ.ค. ที่พรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร แถลงต่อกรณีดังกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับมติของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว ตามข้อกฎหมายที่นายปิยบุตรแถลงไปแล้ว และขอตั้งข้อสังเกตว่าการยื่นคำร้องของกกต.ไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่า ทำไมยังมีหนังสือเรียกพยานเพิ่ม ลงวันที่ 17 พ.ค. เพื่อไปให้การเพิ่มเติมในวันที่ 24 พ.ค. จากคณะกรรมการสืบสวนชุดเล็ก ที่ยังดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงอยู่

คำถามคือ เหตุใดกกต. 7 ท่านจึงส่งคำร้องให้ศาลพิจารณา โดยไม่รอให้คณะกรรมการชุดเล็กพิจารณาหาความเป็นจริงให้เสร็จก่อน

นายธนาธร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กกต.ก็เคยเรียกนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของตนไปตอบข้อร้องเรียนนี้ โดยจดหมายมาถึงวันที่ 22 เม.ย.ตอนบ่าย ให้ไปให้ปากคำวันที่ 22 เม.ย.ตอนเช้า ซึ่งไม่มีใครทำได้ หลังจากนั้นวันที่ 23 เม.ย. กกต.ก็แจ้งข้อกล่าวหาตนทันที โดยที่ฝ่ายตนผู้ถูกร้องไม่ได้มีโอกาสชี้แจง

ความเร่งรีบนี้ยิ่งผิดปกติเมื่อเทียบกับกรณี นายดอน ปรมัตถ์วินัย อดีตรมว.การต่างประเทศที่ใช้เวลา 417 วันนับจากกกต.จนถึงศาลรัฐธรรมนูญ แต่กรณีของตนใช้เวลา 53 วันเท่านั้น ต่างกันเกือบ 1 ปี จึง

นายธนาธร กล่าวว่า ทุกท่านคิดว่าตนได้รับความเป็นธรรมจากกรณีนี้หรือไม่ ได้รับความเป็นธรรมจากองค์กรอิสระหรือไม่ มีความพยายามผลักดันเรื่องนี้เร็วกว่าปกติหรือไม่ ขอให้ประชาชนมาร่วมช่วยกันตรวจสอบองค์กรอิสระ ตอนนี้ ตนและพรรคอนาคตใหม่จะยังยืนยันอย่างแน่วแน่ต่อไปว่า จะรวบรวมเสียงพรรคการเมืองที่ต่อต้านเผด็จการเพื่อผลักดันให้นายธนาธรเป็นนายกฯอย่างไม่หยุดยั้ง นายธนาธรยังเป็นแคนดิเดตนายกฯพร้อมเป็นนายกฯ มีศักดิ์และสิทธิที่จะเป็นนายกฯ

“ผมอยากลองชวนทุกคนให้ยืนเงียบๆ นิ่งๆเงี่ยหูฟัง พวกเราได้ยินเสียงคร่ำครวญ เสียงความไม่พอใจของผู้คนข้างนอกหรือไม่ คสช.วันนี้กำลังอยู่ในช่วงขาลง คสช.และเผด็จการคืออาทิตย์ที่กำลังอัสดง ไม่ว่าจะเป็นความพยายามสืบทอดอำนาจด้วยการดึงส.ส.จากพรรคอื่น หรือสกัดผมไม่ให้เข้าสภาก็ดี นี่แสดงถึงความสิ้นหวังของเผด็จการ เป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของระบอบเผด็จการ

พวกเขาต้องการให้วันนี้เป็นเมื่อวาน เพื่อจะได้เสวยสุขบนความทุกข์ของประชนต่อเนื่องไม่เปลี่ยนแปลง พวกเขาคือความมืด พวกเราคือแสงสว่าง อนาคตใหม่ขออาสาเปิดประตูสู่รุ่งอรุณของวันพรุ่งนี้ นายธนาธรขอเป็นนายกฯ เพื่อหยุดยั้งระบอบคสช. เพื่อหยุดยั้งระบอบเผด็จการ” นายธนาธรกล่ว

ทุกคนอาจสิ้นหวังหมดหวังเมื่อได้ยินคำวินิจฉัยของศาล แต่ตนอยากเรียนผู้สนับสนุนอนาคตใหม่ว่า นี่ไม่ใช่เวลาขอความสิ้นหวัง นี่คือเวลาเปิดโปงความชั่วร้ายของเผด็จการ จากความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น ผมขอชวนพี่น้องลุกขึ้นยืนและต่อสู้ร่วมกัน เพื่อร่วมสร้างสังคมแห่งความเป็นธรรม

ชาวอนาคตใหม่ที่ได้ยินเสียงของผม ผมและส.ส.อีก 79 คนยังไม่หมดหวัง แม้ศาลจะตัดสินให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ แต่ผมยังเป็นส.ส.อยู่ ระหว่างรอการวินิจฉัยของศาล ผมจะทำงานกับประชาชนอย่าต่อนื่อง เมื่อไม่ให้ผมเข้าสภา ผมก็จะอยู่กับประชาชน ในฐานะบุคคลที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน 6.3 ล้านเสียงทั่วประเทศ”นายธนาธรกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวของนายธนาธร มีส.ส.พรรคอนาคตใหม่ กว่า 40 คน และประชาชนที่รับทราบข่าวมาร่วมรับฟังรวมกว่า 100 คน ปรมมือให้กำลังใจ ชูสามนิ้ว พร้อมตะโกน ธนาธรสู้ๆดังกึกก้อง นานนับนาที โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างฮึกเหิม แต่ละคนต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มพูดคุยกันตามปกติ ไม่มีส.ส.คนไหนแสดงท่าทีหวั่นไหวต่อมติศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน