เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 มี.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยร้ายแรง กรณีนายสุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ซึ่งก่อเหตุขโมยภาพเขียน 3 รูป ในโรงแรมที่พักแห่งหนึ่งที่ประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 40 นาที

พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวภายหลังการประชุมว่า ในวันนี้ที่ประชุมมีความเห็นให้ไล่ออกนายสุภัฒ เนื่องจากในสุภัฒก่อคดีขึ้นถึง 2 ครั้งในโรงแรมเดียวกัน โดยนายสุภัฒชี้แจงถึงสาเหตุที่ก่อเหตุดังกล่าว เพราะไม่พอใจการให้บริการของทางโรงแรมนั้น เป็นเหตุผลที่คณะกรรมการฟังไม่ขึ้น แต่หลังจากถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดและถูกดำเนินคดีที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว นายสุภัฒได้รับสารภาพกับตำรวจและอัยการญี่ปุ่น พร้อมทั้งมีการชดใช้ค่าเสียหายที่ตัวเองได้กระทำความผิดต่อโรงแรมแล้ว ซึ่งกฎหมายต่างประเทศไม่ดำเนินคดี เพราะเห็นว่าผู้กระทำความผิดสำนึกแล้ว จึงให้โอกาสกลับตัว

พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวต่อว่า ทางคณะกรรมการได้ตรวจสอบประวัติการรับราชการของนายสุภัฒ ทราบว่ารับราชการมาแล้วกว่า 30 ปี และไม่เคยกระทำความผิดทางวินัยหรือสร้างความเสียหายให้แก่ทางราชการเลยแม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้ง ยังได้ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกจนทราบว่า นายสุภัฒเคยแต่งงานกับภรรยาชาวญี่ปุ่นและหย่าร้างไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันพบว่านายสุภัฒอาศัยอยู่เพียงลำพัง ไม่มีผู้ดูแล ดังนั้น คณะกรรมการจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลงโทษปลดออกจากราชการแทนการไล่ออก โดยนายสุภัฒจะยังมีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญ รวมถึงสิทธิในการรักษาพยาบาลด้วย

รองปลัดยธ. กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการชุดนี้ได้พิจารณาทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างละเอียด และเมื่อครั้งที่นายสุภัฒได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยก็ได้ทำหนังสือขอโทษ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำนึกในการกระทำความผิด อีกทั้งเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับข้าราชการระดับสูงหลายรายที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรง หรือยักยอกทรัพย์ของทางราชการ แต่ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด แม้จะถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด แต่รอการลงอาญาไว้ ปัจจุบันคนเหล่านี้ก็ยังรับราชการอยู่ ดังนั้น โทษปลดออกของนายสุภัฒจึงถือว่าสมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คณะกรรมการจะทำหนังสือแจ้งไปยังต้นสังกัดและนายสุภัฒ ซึ่งผลการปลดออกจะมีผลทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน