ทส.ป๋าคาดไม่มีพินัยกรรม รอตั้งผจก.มรดก ประสานญาตินำเงินช่วยคนจน ตามเจตนารมย์

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษฯ นายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ กล่าวถึงกรณี พล.อ.เปรม ต้องการบริจาคเงินที่สะสมที่เก็บมาเป็นเวลานาน เพื่อมาจัดทำเป็นโครงการเพื่อสาธารณประโยชน์ ว่า ความตั้งใจเดิมของพล.อ.เปรม ต้องการทำโครงการที่เกี่ยวกับด้านการศึกษา และอื่นๆ ที่ทันสมัยและถาวร ตนจึงได้ไปปรึกษา พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ประธานมูลนิธิรักเมืองไทย

ทางพล.อ.มงคล ก็คิดว่าน่าจะจัดเป็นโครงการช่วยเหลือทางด้านการแพทย์ โดยจัดตั้งเป็นศูนย์การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องโรคหัวใจ ซึ่งมีคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์เข้าร่วม โดยนายบัญญัติ จันทร์เสนะ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และอดีตรมช.มหาดไทย เสนอว่าควรไปจัดสร้างที่คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งพล.อ.มงคล ได้นำข้อคิดเห็นมาหารือกับพล.อ.เปรมแล้ว ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำโครงการนี้หรือไม่ และจะจัดตั้งขึ้นที่ใด

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พล.อ.พิศณุ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าท่านจะเสียชีวิตประมาณ 7 วัน พล.อ.เปรม ได้เรียกตนไปพบและบอกว่าขอเพิ่มเป็นโครงการที่ช่วยเหลือคนจน จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเกษตรที่เป็นเรื่องถาวรด้วย แต่ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เพียงแต่เป็นการไปขอความคิดเห็นจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เท่านั้น ส่วนข้อสรุปคงต้องรออีกสักระยะ ขณะนี้จึงมี 2 ส่วน คือ โครงการศูนย์การแพทย์ และโครงการช่วยคนยากจน ซึ่งนายวิษณุ บอกว่าอยากให้ทำโครงการช่วยเหลือคนยากคนจนก่อน แต่ถ้ามีข้อติดขัดหรือยากลำบากก็จะเป็นโครงการเกี่ยวกับการแพทย์เหมือนเดิม

“เป็นส่วนที่หารือกันไว้พักใหญ่แล้ว เพื่อเตรียมดำเนินการในช่วงท่านอายุครบ 99 ปี จะขึ้น 100 ปี แล้วท่านก็บอกว่าให้ผมรับเงินไปเลย ผมก็บอกว่าขอไปคิดเรื่องโครงการให้ได้ก่อน และดูว่าใครจะเป็นคนดำเนินการ โดยท่านบอกว่าอยากให้โครงการอยู่ในมูลนิธิที่มีชื่อท่านด้วย ผมก็บอกว่าจะมีมูลนิธิรัฐบุรุษฯ พล.อ.เปรม ที่มีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นประธาน กับมูลนิธิสวนประวัติศาสตร์ พล.อ.เปรม จ.สงขลา ซึ่งนายวิษณุ เป็นประธาน” พล.อ.พิศณุ กล่าว

ส่วนที่บริจาคทำโครงการรวมถึงทรัพย์สินอื่นด้วยหรือไม่ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ กล่าวว่า เฉพาะเงินสดในบัญชีเงินฝากที่ท่านเก็บมาตั้งแต่เป็นนายทหาร นายกรัฐมนตรี และจากตำแหน่งที่ปรึกษาภาคเอกชน ที่ผ่านมาท่านก็จะบริจาคให้ทุนการศึกษาเด็กยากจน และที่มาขอความช่วยเหลือ สำหรับการถอนเงินออกมาจากบัญชีเป็นเรื่องขั้นตอนกฎหมาย เพราะเกี่ยวกับเรื่องมรดก

คาดว่าท่านไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ เพราะเมื่อ 6 เดือนก่อนเคยถามตนว่า ท่านควรเขียนพินัยกรรมหรือไม่ ตนก็ไม่ได้ตอบ แต่หลังจากนั้นได้ทำไว้หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ต้องรอญาติเป็นพยานมาตรวจสอบ ขณะนี้ก็หารือกับฝ่ายกฎหมายเรื่องการตั้งผู้จัดการมรดก แต่เบื้องต้นต้องไปสืบดูว่าญาติที่ใกล้ที่สุดเป็นใคร เพราะท่านไม่มีลูก ไม่มีครอบครัว ก็ต้องไปดูทางครอบครัวของพี่น้องว่าใครใกล้ที่สุด นักกฎหมายก็บอกว่าทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นลูกของพี่ หรือของน้อง ต้องถือเอาคนแรก ส่วนใหญ่ญาติท่านก็อยู่กรุงเทพฯ ซึ่งผู้จัดการมรดกจะเป็นญาติ หรือไม่ใช่ญาติก็ได้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน